Category Archives: ไทย

ไปแล้ว..แก่นนครบุกผู้ดีชิงWBC Silver อินเตอร์

แก่นนคร ศักดิ์กรีรินทร์ อีกหนึ่งขุนพลเกียรติกรีรินทร์ กำปั้นล่าฝัน กับภาระกิจครั้งสำคัญ ขึ้นชิงแชมป์ WBC Silver อินเตอร์เนชั่นแนลซิลเวอร์ที่ว่างรุ่น 115 ปอนด์กับ ทอมมี่ แฟรงค์ นักชกอังกฤษ ในวันที่ 20 กันยายน 2562 ที่เมืองเชฟฟิลด์,ประเทศอังกฤษ

ล่าสุด..ทีมงานใหญ่จากการนำของบอสใหญ่ “ดร.จิมมี่” เอกรัฐ ไชยโชติช่วงได้ออกเดินทางไปแล้ว เพื่อทำการขึ้นชกที่ประเทศอังกฤษในวันที่ 20 กันยายน 2562 โดยแก่นนคร ต้องพบศึกหนักนักชกเจ้าถิ้นทอมมี่ แฟรงค์ มวยสร้างแดนผู้ดี สถิติสวยชนะรวด 11 ครั้ง วัย26ปี ไม่เคยแพ้ใคร และสำคัญตอนนี้ เขายังคงสถาณะคาดเข็มขัดแชมป์เครือจักรภพอังกฤษอยู่

Boxing-108

ด้าน แก่นนคร มีสถิติชก 7 ครั้ง ชนะ 6 แพ้ 1 ขึ้นชกต่างประเทศมา 2 ครั้ง ครั้งแรก แพ้คะแนน นักชกรัสเซีย ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก และ ครั้งสอง ชนะน็อก นักชกญี่ปุ่น ที่เมืองโตเกียว และนี้จะเป็นครั้งที่ 3 ของการโกอินเตอร์ ในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน ประเ้ทศอังกฤษ

การศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แก่นนครพร้อมแล้วที่จะขึ้นทำสงครามกำปั้นที่เมืองผู้ดี มาช่วยกันลุ้นส่งกำลังใจให้กับแก่นนคร ศักดิ์กรีรินทร์

ร้อน..ชมคลิป Alvin Medusa ว่าที่คู่ชิงชายน้อย

ศึก WP Boxing 21 กันยายน โฟกัสไฟต์พิกัด 122 ปอนด์ กำหนด 6 ยกระหว่าง ชายน้อย วรวุฒิ นักชกดาวรุ่งกำปั้นหนักความหวังใหม่ของวงการมวยสากลอาชีพไทย มีสถิติการชก ชนะ 6 ครั้ง เป็นการชนะน็อกทั้ง 6 ครั้งและ เสมอ 1 ครั้ง ยังไม่เคยแพ้ใคร มีดีกรีเป็นแชมป์โลกเยาวชน WBC Youth World รุ่น ซูเปอร์แบนตั้มเวท

Boxing-107

พอดีเย็นนี้..ผมได้คลิปมาจากคุณ อนัน ไทคูณ ลองมา ส่องฟอร์มเจ้า Alvin Medusa ว่าที่คู่ชิงแชมป์WBC Asia ของชายน้อยในวันที่ 19 ต.ค. 2562 นี้ เจ้าของสถิติชนะ 9(น็อก7) แพ้(คะแนน) 4 ถือว่าใช่ได้เลยครับ

“ราฟฟี สิงห์ป่าตอง” : ชีวิตนักมวยฝรั่งเศสแชมป์เวทีลุมพินีบนสังเวียนเลือดมวยไทย

Boxing-76

“ถ้าผมคิดเรื่องหาเงินเป็นอันดับแรก ผมคงไม่เลือกชกมวยไทย แต่ผมต่อย เพราะผมรักมวยไทย” 

การตอบคำถามด้วยภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำของ ราฟาแอล โบอิค (Raphael Bohic) หรือ ราฟฟี สิงห์ป่าตอง นักมวยไทยอาชีพชาวฝรั่งเศส คงเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า “เขารักมวยไทยมากแค่ไหน ?”

สำหรับคนหนุ่มที่เติบโตมาในประเทศที่พัฒนา และสามารถหารายได้หลักครึ่งแสนต่อเดือน แทบไม่มีความจำเป็นใดๆเลย ที่เขาต้องมาใช้ชีวิตแบบนักมวยไทย ในแผ่นดินที่ไม่ใช่บ้านเกิดของตัวเอง รวมถึงต้องปรับตัวกับทุกๆเรื่องตั้งแต่อาหารการกิน ภาษา ไปจนถึงวัฒนธรรมต่างกัน

แต่เพราะมนุษย์ทุกคนต่างความหลงใหลและวิถีทางที่อยากจะเป็นแตกต่างกัน…ราฟฟี ยินดีที่จะสละชีวิตอันสุขสบายในประเทศฝรั่งเศส ดินแดนที่คนไทยหลายคน อยากไปท่องเที่ยวหรือใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เพื่อมาต่อสู้บนสังเวียนเลือด แลกกับ  ชื่อเสียง เงินตรา และความสุขที่ได้เดินบนเส้นทางที่ใจต้องการ 

หากนับนิ้วมือตามจำนวนปีที่ ราฟฟี อยู่กินบนแผ่นดินไทย ก็คงต้องใช้นิ้วมือทั้งสองข้าง เพื่อบอกแทนว่า เขาใช้เวลานานกว่าแค่ไหน… 

กว่าชาวต่างชาติคนหนึ่งอย่างเขา จะผงาดขึ้นมาเป็น นักชกแม่เหล็กแถวหน้าของวงการมวยไทยยุคนี้ ที่มีเข็มขัดแชมป์ รุ่น 147 ปอนด์ เวทีมวยลุมพินี และแชมป์โลกมวยไทยสถาบัน WMC รุ่น 140 ปอนด์ เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จ

ไอ้หนุ่มช่างไฟหัวใจมวยไทย 

แรนส์ (Rennes) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกตอนเหนือ ห่างจากปารีส 310 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม วิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย บ้านเมืองที่สะอาดสะอ้านตา จนถูกยกให้เป็น เมืองน่าอยู่ลำดับต้นๆ ของประเทศฝรั่งเศส  

ราฟฟี ใช้ชีวิตในวัยเด็กและเติบโตที่เมืองนี้ เมื่อย่างเข้าวัยรุ่น เขาเรียนหนังสือควบคู่กับการทำงานเป็น “ช่างไฟฟ้า” ตามอาชีพที่ครอบครัวทำกันมา (ทำงานสองสัปดาห์, เรียนสองสัปดาห์) จนถึงอายุ 18 ปี

“ผมชอบกีฬาต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 6 ขวบ เคยเรียนยูโด ก็ไม่ได้ติดใจอะไร จึงเลิกไป พออายุสักประมาณ 14 ปี ชอบหาเวลาว่างเปิดคลิปดูการชกมวยหลากหลายรูปแบบ แต่ที่ชอบมากสุด คือ มวยไทย เพราะสามารถศอกได้ ทำได้หลายอย่างไม่ผิดกติกา ส่วนการต่อสู้แบบอื่น อย่าง คิก บอกซิง ผมดูแล้วมันไม่สนุกเลย” 

“ผมชอบดูคลิปบัวขาว, แสนชัย หรือว่าคลิปการชกนักมวยไทยเก่าๆ เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ยิ่งเปิดดูก็ยิ่งทำให้ผมสนใจมวยไทยมากขึ้น เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปฝึก จนมาทราบว่ามียิมสอนมวยไทยเปิดอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานห่างประมาณ 10 กิโลเมตร ทุกวันหลังเลิกงานตอนเย็น ผมจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรียนมวยไทยที่นั่น ตั้งแต่ 2 ทุ่ม – 4 ทุ่ม แล้วค่อยกลับบ้าน”

“ผมไม่รู้ว่าเขาสอนถูกต้องหรือไม่ รู้แต่ว่าผมอยากฝึกมวยไทย และอยากหาเวทีชกเยอะๆ” ราฟฟี บอกกับเราถึงเหตุผลที่เริ่มหลงรักมวยไทย

ราฟฟี ได้เริ่มต้นเรียนมวยไทย ตอนอายุ 17 ปี  ซึ่งหากเทียบกับเด็กไทยก็นับว่าเริ่มต้นช้ามาก แต่เขาคิดว่าไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เพราะเขารู้สึกสนุกและเต็มใจจะเหนื่อยเพิ่มเติมในทุกๆวันหลังเลิกงาน จนมวยไทยกลายเป็นความหลงใหลที่ ราฟฟี ถอนตัวไม่ขึ้น

หนุ่ยน้อยจากเมืองแรนส์ พยายามตระเวนหารายการชกมวยไทยในประเทศฝรั่งเศส แต่น่าเสียดายที่ไฟต์มีจัดไม่บ่อยนักและเว้นช่วงนานเกินไป ทำให้ ราฟฟี่ เริ่มอยากออกเดินทาง ไปสัมผัสประสบการณ์ชกจริง ถูกฝึกสอนจริง โดยชนชาติต้นตำรับกีฬาชนิดนี้ 

“ที่ฝรั่งเศส ปีๆหนึ่ง จะมีรายการชกแค่ 4-5 ไฟต์เท่านั้น แต่ผมเคยได้ยินมาว่าที่เมืองไทย มีรายการต่อยทุกเดือน ผมจึงอยากหาโอกาสมาชกที่ไทย ผมอยากขึ้นเวทีต่อยเยอะๆ ตอนนั้นผมทำงานได้เงิน เดือนละประมาณ 50,000 บาท ก็ค่อยๆเก็บสะสม จนมีเงินก้อนหนึ่งเป็นทุนส่วนตัว สำหรับบินมาเรียนมวยไทย”

“คนอื่นเขาอาจจะมาเมืองไทยเพราะอยากพักผ่อน ท่องเที่ยว แต่เหตุผลเดียวที่ผมมาไทย เพราะมวยไทยเท่านั้น”

สัมภาระเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งถูกบรรจุลงในกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับเงินเก็บจำนวนหนึ่งที่ได้มาจากการทำงานประจำอย่างขันแข็ง คือ สองสิ่งหลักๆที่ราฟฟี่ โบอิค ได้นำขึ้นเครื่องบินออกเดินทางไปยังอีกซีกโลก ในดินแดนที่ห่างไกลออกไปจากถิ่นฐานของเขากว่า 12,000 กิโลเมตร 

แผ่นดินที่ในวันนี้เขาให้คำแทนประเทศนั้นว่า “บ้านหลังที่สอง” 

ฝรั่งบนสังเวียนมวยไทย

เสียงปี่พาทย์อันเร่งเร้า เคล้ากับเสียงกลองชวา จากวงดนตรีปี่กลอง ที่บรรเลงอยู่ข้างๆสนามมวย ท่ามกลางบรรยากาศเสียงอื้ออึงที่ไม่เคยหยุด ของเซียนมวยและคนดูในเวทีมวยมาตรฐาน “ลุมพินี”

เป็นประสบการณ์การชกครั้งหนึ่ง ที่น่าตื่นเต้นของ ราฟฟี โบอิค นักมวยโนเนมชาวฝรั่งเศสวัย 18 ปี ที่ได้มีโอกาสเดินทางจากจังหวัดภูเก็ต ขึ้นมาชกบนสังเวียนอันทรงเกียรตินี้

“ครั้งแรกที่มาเมืองไทย ผมไปซ้อมอยู่ที่ แฟร์เท็กซ์ ก็ฝึกซ้อมไปได้ระยะหนึ่ง จนหมดเงินเก็บ ก็บินกลับไปทำงานเก็บเงินและมาเมืองไทยเป็นครั้งที่สอง โดยเข้ามาฝึกซ้อมกับค่ายมวย สิงห์ป่าตอง ที่ จ.ภูเก็ต”

“สาเหตุที่เปลี่ยนมาซ้อมที่นี่ เพราะมีเพื่อนแนะนำให้มา เขาบอกว่า ค่ายนี้สอนดี ดูแลดี ฝรั่ง คนไทย เท่าเทียมกัน แถมมีรายการให้ชกด้วย”

“ความตั้งใจแรกผมคิดว่าจะอยู่สัก 4 เดือน เงินหมดค่อยกลับฝรั่งเศสไปทำงานต่อ แต่ระหว่างที่ฝึกซ้อมอยู่ สิงห์ป่าตอง ผมได้ขึ้นชกประมาณ 9 ไฟต์ เจอพวกสมัครเล่นเหมือนกันชนะน็อกได้หมดเลย ค่ายจึงพาผมไปลองชกลุมพินี 1 ครั้ง” 

“พอใกล้ถึงกำหนด ผู้ใหญ่ทางค่ายก็สนใจ อยากให้ผมชกมวยไทยต่อ ผมจึงบินกลับฝรั่งเศส ไปทำเรื่องเอกสารประมาณ 2 สัปดาห์ และตัดสินใจมาใช้ชีวิตอยู่เป็นนักมวยที่ไทยจนถึงทุกวันนี้”

การได้รับการถ่ายทอดวิชามวยไทย จากครูฝึกชาวไทย บวกกับได้ลองชกในสนามจริงที่ทางค่ายมีโปรแกรมจัดชกที่ จ.ภูเก็ต ทุกวันเสาร์ ทำให้ ราฟฟี่ โบอิค ยิ่งหลงรักมวยเข้าอย่างสุดหัวใจ

ก่อนที่เขาจะตัดสินใจ เลือกเอาดีทางการชกมวยไทย ตามคำชวนของ หนุ่มน้อย เมืองหาดใหญ่ (สมนึก พัดบุรี) โปรโมเตอร์และผู้ดูแลคณะสิงห์ป่าตอง ที่ชอบใจในความขยันของนักชกฝรั่งคนนี้ โดยในตอนนั้นเขามี ดาเมียน อลามอส เพื่อนร่วมชาติที่เคยเป็นแชมป์เวทีมวยลุมพินี เป็นแรงบันดาลใจที่เขาอยากเดินตามรอย

แม้พื้นฐานเขาไม่ได้มีทักษะด้านมวยไทยที่ดีนัก เมื่อเทียบกับนักมวยชาวไทย โดยเฉพาะด้านเทคนิค ทั้งเรื่องเชิงมวย เหลี่ยมมวย หรือการออกอาวุธให้รุนแรงได้น้ำหนัก แต่การที่เขาถูกฝึกซ้อมซ้ำไปซ้ำมาเป็นเวลานานในทุกๆวัน เริ่มทำให้เขามีพัฒนาการที่ดีขึ้น อย่างค่อยเป็นค่อยไป

“ซ้อมมวยไทยที่ไทย มันทั้งหนัก ทั้งเหนื่อยมาก และยากมากๆเลย ต้องใช้เวลาซ้อมวันละหลายชั่วโมง แบ่งเป็นช่วงเช้ากับช่วงเย็น บางครั้งเหนื่อยจนร่างกายแทบจะไม่ไหวแล้ว แต่ใจก็บอกว่า เอาอีก เอาอีก เพราะเรายังต้องเรียนรู้หลายอย่างมากในกีฬามวยไทย”

“อยู่ที่ฝรั่งเศส ผมได้เรื่องหมัดกับเตะ แต่มาอยู่ไทย ผมได้ฝึกเรื่องศอกกับเข่า รวมถึงการกอดปล้ำด้วย ซึ่งยากมากๆ ต้องเรียนทุกวัน วันละหลายชั่วโมง กว่าจะไล่แขนเป็น ผมเริ่มจากฝึกปล้ำกับคนตัวเล็กกว่า จำได้ว่าตอนแรกๆ ผมปล้ำสู้เขาไม่ได้เลย ทั้งที่ตัวเองใหญ่กว่า พอเริ่มปล้ำเป็น ก็ค่อยๆขยับมาเจอคนที่หุ่นสูสีกัน ตอนนี้ผมปล้ำคนที่ตัวใหญ่กว่าได้แล้ว”

กว่าที่ ราฟฟี่ จะได้ขึ้นไปชกแต่ละไฟต์ เขาต้องผ่านการฝึกซ้อมที่ยาวนานและยากลำบาก แต่เพราะความกระตือรือร้นที่อยากเก่งมวยไทย ทำให้ ราฟฟี่ พยายามหัดฟัง และพูดภาษาไทย จนสามารถสื่อสารกับเทรนเนอร์ได้ง่าย

บวกกับทัศนคติของ ราฟฟี่ ที่เป็นคนที่เปิดรับการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ทำให้ชั้นเชิงการชกของเขา ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ ยามอยู่บนสังเวียน ไม่ว่าจะประจันหน้ากับ คู่ชกชาวต่างชาติ หรือนักมวยไทย

กลายเป็นว่า พอ ราฟฟี่ ชกไปนานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีลักษณะท่าทางการออกอาวุธ ป้องตัว เหมือนกับนักมวยชาวไทยมากขึ้นตามไปด้วย

“ตอนแรกที่ราฟฟี่อยู่กับเรา เขาไม่ได้ชกแบบนี้เลย สไตล์เขาจะเดินแข็งทื่อ เพราะเขาไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้เขามีสไตล์การชกไม่เหมือนฝรั่งชกมวย ดูเหมือนคนไทยมากกว่า เพราะเขาเป็นคนที่เชื่อครูฝึกมาก ไม่ว่าจะสอนอะไร เขาจะรับฟัง และทำตามหมด โดยไม่มีข้อสงสัย”

“ฝรั่งบางคน ที่เคยเรียนมวยไทยในประเทศเขามาก่อน บางทีพอมาเจอการสอนโดยคนไทย เขาก็อาจจะไม่ยอมรับในบางวิธีการสอน หรือเทคนิคที่ครูฝึกถ่ายทอด เพราะคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว ก็เลยทำให้เขามีสไตล์การชกที่ไม่เหมือนคนไทย” 

“แต่ราฟฟี่เขาไม่ได้คิดแบนนั้น เขาเป็นคนที่น้ำไม่เต็มแก้ว มีความอดทนสูง มีระเบียนวินัย ขยัน ก็เลยทำให้เขาสามารถชกได้คล้ายๆกับนักมวยไทย แม้เขาจะเริ่มต้นชกตอนอายุ 18 ปีแล้ว” ปาริฉัตร พัดบุรี ผู้จัดการค่ายมวย สิงห์ป่าตอง-ศิษย์หนุ่มน้อย เล่าเรื่องราวของ ราฟฟี่ ในขณะที่เจ้าตัวกำลังฝึกซ้อมในช่วงเย็น

100 เข็มและเข็มขัดแชมป์ลุมพินี 

เพราะไม่มีเทคนิคและกระดูกมวยติดตัวมาตั้งแต่เด็ก เหมือนนักมวยไทยอาชีพทั่วไป ราฟฟี่ สิงห์ป่าตอง จึงต้องชดเชยความบกพร่องนั้น ด้วยการทุ่มเทและฝึกซ้อมให้หนัก และพยายามให้มากกว่า นักมวยอาชีพ ที่เหนือกว่าเขา 

รอยแผลเป็นบนใบหน้าของ ราฟฟี่ สิงห์ป่าตอง มากกว่า 100 เข็ม คือ หลักฐานพยานที่เด่นชัดว่า เขาผ่านอะไรมาบ้างบนสังเวียนผ้าผืนใบ 

“ผมชอบมวยไทย เพราะออกอาวุธไม่ต้องเยอะ แต่เต็มที่ หนักทุกลูก เป็นกีฬาที่อันตรายมาก อย่างผมเย็บมา 100 กว่าเข็มแล้ว เหนือคิ้ว ใต้ตา หางคิ้ว ตรงข้อศอก เคยเย็บมากสุดครั้งเดียว 17 เข็ม ความรู้สึกตอนที่มีแผลแตก มันรู้สึกร้อนๆ แต่ไม่ได้เจ็บ ที่เจ็บสุดคือตอนเย็บแผล เจ็บมากกว่าตอนชกเสียอีก แล้วต้องรีบเย็บด้วย เพราะมันยังร้อนอยู่ ถ้าช้าจะเจ็บมากกว่านี้”

“บางครั้งโดนเตะซี่โครง นอนพลิกตัวไม่ได้เลย อาชีพนักมวยไทยไม่ง่ายเลย เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยคิดหรอกว่าตัวเองจะเป็นแชมป์ ผมแค่อยากมีรายการชกบ่อยๆ อยากชกให้คนดูประทับใจ ผมดีใจที่เวลาไปสนามมวย มีแฟนมวยคนไทยมาขอถ่ายรูป เข้ามาทักทาย รู้สึกมีความสุขมาก” ราฟฟี่ กล่าว

“ไม่เจ็บ ไม่เรียนรู้” ราฟฟี่ เข้าใจความหมายของคำนี้เป็นอย่างดี เพราะในความเป็นจริง เขาแทบไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องใช้กำปั้นแลกความเจ็บปวด เพื่อเงินทองเหมือนกับนักมวยชาวไทย ที่จำนวนไม่น้อย มาจากครอบครัวที่ยากจน 

เขาสามารถกลับไปใช้ชีวิตเป็นคนชนชั้นกลาง ทำงานหาเงินไม่ต้องเจ็บตัว อยู่ในประเทศฝรั่งเศส ไม่ต้องห่างไกลกับครอบครัว แต่ถึงกระนั้น ราฟฟี่ ไม่ได้คิดเช่นนั้น เขายินดีที่จะเสี่ยงรับความเจ็บปวดบนสังเวียนผืนผ้าใบมวยไทย ด้วยเหตุผลที่มากกว่าแค่เรื่องเงินทอง

“พ่อแม่ท่านก็เป็นห่วงนะครับ ตอนที่ผมเลือกเป็นนักมวยไทย แต่ชกเพราะผมรักมวยไทย ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องเป็นแชมป์ อยากมีรายการชกบ่อยๆ อยากชกให้เต็มที่ให้คนดูสนุก ถึงอาชีพนักมวยค่าตัวจะน้อย แต่ผมไม่ได้ชกมวยไทยเพราะเงิน ถ้าผมคิดเรื่องหาเงินเป็นอันดับแรก ผมคงไม่เลือกชกมวยไทย ผมก็คงไปหางานอย่างอื่นทำ” 

จากนักชกฝรั่งไร้ทรงมวย ความขยัน ตั้งใจ และไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง ทำให้ ราฟฟี่ ยกระดับตัวเองมาสู่มวยค่าตัวเงินแสนอีกคนของประเทศไทย จากจุดเริ่มต้นค่าตัว 4,000 บาทต่อไฟต์ 

แต่เขาคงไม่มีทางได้เป็นแชมป์มวยไทย เวทีลุมพินี หรือมีโอกาสได้ชกกับนักมวยไทยฝีมือดีหลายราย อาทิ ชูเจริญ ดาบรันสารคาม, ฉมวกทอง ไฟต์เตอร์มวยไทย, ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์, มนัสชัย หยกขาวแสนชัยยิม, ก้องศักดิ์-พงษ์สิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, นนทกิจ ต.หมอศรี รวมถึง แสนชัย หากเขาไม่มีวินัยและความพยายามที่มากพอ

โดยเฉพาะเรื่องการลดน้ำหนักที่ถือเป็นฝันร้ายสำหรับนักมวยไทยทุกคน ยามต้องเข้าโปรแกรมคุมน้ำหนัก เพื่อไม่ให้เกินน้ำหนักที่ตกลง และด้วยรูปร่างโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่กว่าคนไทย ทำให้ ราฟฟี มักเป็นฝ่ายบีบน้ำหนักลงมาอยู่ที่ประมาณ 142 ปอนด์ โดยบางครั้ง เขาจะให้นักมวยไทยที่เก่งกว่า ต่อน้ำหนักให้เขา 2 ปอนด์  เพราะเจ้าตัวไม่สามารถทำน้ำหนักให้ลงไปมากกว่านั้นได้

“ผมเข้าใจนะครับว่า นักมวยไทยส่วนมากน้ำหนักจะไม่ค่อยเกิน 140 ปอนด์ (63.5) แต่ผมบีบน้ำหนักได้มากสุดแค่ 142 ปอนด์ (64 กิโลกรัม) เพราะน้ำหนักตัวผมปกติมันเยอะมาก (69 กิโลกรัม หรือ 152 ปอนด์)” 

“เท่ากับว่าถ้าผมชก 142 ปอนด์ ผมต้องลดน้ำหนักลงมาประมาณ 5 กิโลกรัมต่อไฟต์ ซึ่งผมต้องคุมอาหารก่อนชกเป็นสัปดาห์ และออกไปวิ่งเยอะๆ ช่วง 2-3 วันก่อนชก ถึงขนาดนั้น น้ำหนักก็ยังเกินมา 1 ปอนด์ตลอดตอนชั่ง จนผมชินแล้ว”

“แต่ผมไม่ค่อยคิดมากว่า มันเหนื่อย ก็ต้องสู้ อย่าไปอารมณ์เสีย พยายามคิดให้เป็นบวก ชกให้เต็มที่ก็พอ แล้วค่อยคิดเรื่องแพ้ ชนะ หรือแชมป์”

ราฟฟี ในวัย 28 ปี ลงหลักปักฐานและพบรักกับหญิงสาวชาวไทย โดยมีธุรกิจเล็กๆ ด้วยการปล่อยเช่ามอเตอร์ไซค์ ใน จ.ภูเก็ต เป็นรายได้เสริม นอกเหนือจากรายการชกที่เขามีต่อยอย่างสม่ำเสมอในไทย รวมถึงรายการในต่างประเทศ ที่ได้บรรลุข้อตกลงเซ็นสัญญากับ ONE Championship

แม้ในวันนี้ ราฟฟี่ จะมีรายได้จากการชกมวยไทยต่อเดือน เป็นเงินจำนวนที่มากกว่าตอนทำงานเป็นช่างไฟฟ้าในบ้านเกิด 

แต่อย่างที่เขาบอกกับเรา เงินไม่ใช่ประเด็นหลักที่เขาเลือกอาชีพนักมวยไทย เขาเลือกมวยไทย เพราะนี่คืองานที่เขารักและมีความสุขที่จะทำ เขายินดีที่จะเหนื่อย ยินดีจะพบกับความเจ็บปวด และพร้อมที่จะทุ่มเทให้มันอย่างสุดหัวใจ 

และสิ่งที่ตอบแทนกลับมาวันนี้ คือ ราคาแห่งความพยายามที่เขาแลกมันมาด้วย เลือด, หงาดเหงื่อ และความตั้งใจของชาวต่างชาติคนหนึ่ง บนสังเวียนผืนผ้าใบมวยไทย

“ผมมีความสุขกับทุกไฟต์ที่ได้ชก ผมไม่ได้รู้สึกมีปัญหาในการปรับตัว เรื่องการใช้ชีวิตที่ไทย แม้ว่า ไทย กับ ฝรั่งเศส จะมีความแตกต่างกันมาก ทั้ง สภาพอากาศ, อาหารการกิน หรือภาษา แต่เราก็ยังเห็นว่าคนไทยยิ้มให้กันตลอด ส่วนบ้านผมในช่วงหน้าหนาว เราคงไม่ได้เห็นรอยยิ้มจากพวกเขาแน่ๆ”

“มันก็มีบางครั้งตอนอยู่ไทย ที่ผมคิดถึงบ้าน เพราะผมได้กลับบ้านฝรั่งเศสแค่ปีละครั้งเอง แต่พอผมกลับฝรั่งเศสจริงๆ อยู่ที่นั่นได้แค่ 2-3 อาทิตย์ ก็อยากกลับไทยแล้ว ผมรู้สึกเหมือนที่นี่ เป็นบ้านอีกหลังของผมจริงๆ” ราฟฟี ทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มหลังจบประโยคนี้

1% สุดท้าย คือที่ว่างสำหรับ ‘มวยสากล’เลเวล1..

Boxing-43

ถ้าทุกท่านกำลังอยู่ในฐานะผู้ปกครองของเด็กผู้ชายอายุ 7 ขวบคนหนึ่ง คุณอยากให้เค้าเล่นกีฬาประเภทใดครับ?

ประมาณ 70% อยากให้ลูกเป็นนักฟุตบอล

อีก 29% อยากให้ลูกเล่นกีฬาประเภทอื่นๆ เช่น วอลเลย์บอล ว่ายน้ำ บาสเกตบอลและกีฬาประเภทอื่นๆ

ส่วน 1% สุดท้าย คือที่ว่างสำหรับ ‘มวยสากล’

Boxing-44

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลข้างต้น เป็นเพียงการสนทนากับเพื่อนร่วมออฟฟิศของผู้เขียน ซึ่งคู่สนทนาส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มชนชั้นกลาง มิได้ครอบคลุมกลุ่มคนทุกชนชั้นในสังคม จึงไม่ใช่ผลงานการเขียนที่ถูกต้องสมบูรณ์แต่อย่างใด

แต่ด้วยค่านิยมในปัจจุบัน คงไม่มีใครเต็มใจให้บุตรหลานไปเล่นกีฬาที่ต้องเจ็บตัวอย่างนั้นเท่าไหร่ อีกทั้งเรื่องของรายได้และความเป็นที่นิยมของมวย ก็มิได้ดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ให้ยอมพลีกายให้แต่อย่างใด

ที่สุดแล้ว ในวันที่ถนนโล่งเมื่อเขาทรายขึ้นชกมวยเมื่อวันวาน ก็ถูกกาลเวลาผันเปลี่ยนเป็น แชมป์โลก 2 คนที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าใดในปัจจุบัน

ตามที่สังเกตุในปัจจุบัน นักกีฬามวยสากลอาชีพบ้านเรามีจำนวนลดลงมากพอสมควร อีกทั้งนักมวยความหวังระดับแชมป์โลกก็ยังแทบจะไม่มีให้เห็นเท่าไรนัก นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเสื่อมความนิยมของมวยสากล ซึ่งเหตุผลเกิดจากปัจจัยใดบ้าง ผมว่าทุกท่านคงจะมีคำตอบในใจและผ่านการเสวนาในประเด็นดังกล่าวกันอย่างถึงพริกถึงขิงแล้วในหลายๆครั้ง ซึ่งเราคงจะไม่พูดถึงประเด็นดังกล่าวในบทความนี้

Boxing-45

ดังนั้น บทความนี้ขอเสนอนักมวยสากลอาชีพชาวไทยที่ยังชกอยู่ในปัจจุบันในแต่ละรุ่น ใครเป็นใครและมีเป้าหมายอันใดกันบ้าง เชิญติดตามได้ด้านล่างครับ

รุ่น มินิมั่มเวต 105 ปอนด์

ด้วยสรีระที่ค่อนข้างเล็กกว่าประชากรของทวีปอื่น นี่จึงเป็นพิกัดน้ำหนักที่เป็นที่นิยมของนักมวยชาวไทยและมีนักมวยระดับแชมป์โลกมากมายในพิกัดน้ำหนักนี้ ตามข้อมูลและสถิติที่มีบันทึกไว้ มีนักมวยชาวไทยไม่น้อยกว่า 214 คนที่เคยชกในรุ่นนี้ แต่ปัจจุบันคงเหลือนักมวยไม่ถึง 10 คนในพิกัด แต่อย่างไรก็ตาม แชมป์โลก 2 คนที่สยามประเทศมีในปัจจุบัน คือนักมวยในพิกัดนี้ นั่นก็ได้แก่ วันเฮง มีนะโยธิน และ น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท ซึ่งถือว่าเป็น 2 นักชกที่ดีที่สุดในโลกของรุ่นนี้ด้วย

Boxing-46

ทางด้านนักมวยรายอื่นๆ เราแทบไม่เห็นดาวรุ่งที่พอจะฝากความหวังได้ในอนาคตเลย นักมวยที่พอจะมีชื่อเสียงอีกคนก็คือ ไก่ชน ส.วรพิน ที่กลายสภาพเป็นมวยเดินสายและมีสถิติการชกแพ้น็อคมา 10 ไฟต์รวดในช่วงหลัง

รุ่น ไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์

สมาน ส.จาตุรงค์ คือนักมวยที่โด่งดังและสร้างแรงบันดาลใจมากมายให้กับบุคคลทุกวงการนับตั้งแต่การพลิกนรกชนะน็อคฮุมเบอร์โต กอนซาเลซ ซึ่งในปัจจุบัน ถึงแม้เราจะไม่มีแชมป์โลกในพิกัดรุ่นนี้ หากแต่ดาวรุ่งที่กลายเป็นมวยสร้างของญี่ปุ่นอย่าง เพชรโกศล กรีนซือดะ เจ้าของฉายา ศรีสะเกษ 2 ก็ยังเป็นความหวังแชมป์โลก ที่แฟนมวยชาวไทยกำลังจับตามองและตามลุ้นอยู่เช่นกัน

แสงมณี ซบ “วัน แชมเปียนชิพ” โกอินเตอร์ระดับโลก !!

แสงมณี แสงมณียิม ยอดมวยไทยชื่อดัง หลังจากเพิ่งเอาชนะ ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์ ที่เวทีมวยราชดำเนิน เมื่อคืนวันพฤหัสฯ 12 ก.ย.62 รุ่งขึ้นเปิดตัวตบเท้าเข้าร่วมสังกัดใหญ่ วัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE CHAMPIONSHIP) โปรโมชั่นใหญ่ระดับโลก เป็นที่เรียบร้อย

“เจ้าบอล” แสงมณี ส.เทียนโพธิ์ เดิม หรือ แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม ซุปตาร์ดาวรุ่งมวยไทยแห่งยุค มีชื่อจริง “พงศกร สิทธิเดช” เซ็นสัญญาเข้าร่วมสังกัดของ วัน แชมเปียนชิพ เตรียมอาละวาดประกาศฝีมือเชิงมวยไทยในพิกัด 65.8 กก. เพื่อหวังโกอินเตอร์เติมความท้าทายให้ชีวิตในเวทีระดับโลก

Boxing-40

แสงมณี อดีตฉายา “ขวัญใจนักเรียน” พร้อมก้าวสู่เส้นทางยิ่งใหญ่ ด้วยฉายา “ทารกเงินล้าน” (The Million Dollar Baby) ล่าสุดอายุ 22 ปี พื้นเพชาว อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มีเงินเก็บหลักล้านตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ จากมวยเด็กค่าตัว 200 บาท หลังเทิร์นโปรเมื่ออายุ 6 ขวบ เดินตามรอยบิดา พร้อมพรสวรรค์ทางสายเลือดจากผู้พ่อ “นายหนูกัน สิทธิเดช” อดีตนักมวยไทย

เข้าทำนอง “เก่งเลือกได้” ปัจจุบัน แสงมณี เป็นนายตัวเองเป็นเจ้าของค่ายมวย “แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม” ย่านท้ายซอย รามคำแหง 52 แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ ต้องยอมรับว่าแม้วัยเพียง 22 ปี แต่เขาผ่านอะไรมามากมายในวงการมวยไทย ทำให้ผู้เป็นพ่อ “นายหนูกัน” ที่ยอมรับว่าตนเรียนหนังสือมาน้อย ก้าวเข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแล และปกป้องผลประโยชน์ แสงมณี จึงเป็นนักมวยเพียงไม่กี่คน หรือแทบจะนับคนได้ ในประเทศนี้ ที่สามารถชกต่างศึกต่างสายได้ด้วยการตัดสินใจของตัวเอง

Boxing-41

วันนี้ “ทารกเงินล้าน” ดีกรีแชมป์เวทีมวยมาตรฐานลุมพินี และ ราชดำเนิน รวม 4 รุ่น ,นักมวยถ้วยพระราชทานฯ ปี 2555 ซึ่งคว้ามาได้ด้วยวัยเพียง 15 ปีในขณะนั้น ถือเป็นนักชกผู้มีไอคิวบนสังเวียนสูงสุดคนหนึ่งของประเทศ ไต่เต้าค่าตัวจาก 200 บาทสู่ 250,000 บาทต่อไฟต์ในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าตัวจากการชกต่างประเทศที่เคยได้รับมากกว่านี้

การตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับ วัน แชมเปียนชิพ จึงเป็นการพลิกชีวิตครั้งใหญ่ แม้จะเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับองค์กรระดับโลกแห่งนี้ แต่มันก็คุ้มค่ากับการได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือ และศักยภาพของตนเองในระดับสากล

“The Million Dollar Baby” แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม นักชกฝีมือขั้นเทพผู้ไม่เอาเปรียบคนดู จะทุ่มสุดตัวให้สมกับโอกาสที่เขาได้รับ เพื่อตอกย้ำให้ผู้ชม 140 ประเทศทั่วโลกที่ติดตามรายการ วัน แชมเปียนชิพ ได้รู้ว่า “ไทยแลนด์” ยืนหนึ่งเรื่องหมัดมวย

Boxing-42

เขาผู้นี้จะสร้างความตื่นเต้นเร้าใจบนสังเวียนผืนผ้าใบระดับโลกและสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศในฐานะตัวแทนจากดินแดนขวานทอง

ร้อน..รถถัง-เสกสรร 2

Boxing-39

รถถัง จิตรเมืองนนท์ อาศัยจังหวะต่อยหมัดเข้าเต็มหน้า เสกสรร อ.ขวัญเมือง จนออกอาการเมายก4 ก่อนคุมเกมเอาชนะไปแบบสนุกดุเดือด เรียกเสียงปรบมือจากแฟนมวยได้ทั้งเวที ในศึกจิตรเมืองนนท์ผ่านมา ล้างภาพเดิมของรถถัง ที่แฟนมวยบางส่วนไม่พอใจในฟอร์มครั้งแรกที่เจอกันมา ก่อนการชก รถถัง จิตรเมืองนนท์ (แดง) -เสกสรร อ.ขวัญเมือง (น้ำเงิน) ในพิกัด 134 ปอนด์ สถิติ รถถัง เคยชนะ 1 ครั้ง เรต เสกสรร เสมอ..

นวพลมาแรง แหลม-เอส ยังไม่แน่ WBC ชี้ชัด..??

สภามวยโลก wbc คลอดอันดับโลกเดือนกันยายนแล้ว นักชกไทยพาเหรดติดอันดับถึง 15 คน ”เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น รั้งอันดับ 1 รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตเหนียวแน่น และ นวพล นครหลวงโปรโมชั่น พุ่งอันดับ 3 รุ่นแบนตั้มเวต มีลุ้นขึ้นเบอร์ 1 ชายน้อย วรวุฒิ เข้าอันดับ 122 ป. เรียบร้อย

Boxing-37

สภามวยโลก wbc ประกาศอันดับเดือน กันยายน 2562 แล้ว โดยมีนักมวยไทยติดอันดับ 15 รายด้วยกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้รุ่นมินิมั่มเวต : วันเฮง ซีพีเอฟ แชมป์โลก, สะท้านเมืองเล็ก ซีพีเอฟ อันดับ 12” รุ่นไลต์ฟลายเวต พงษ์ศักดิ์เล็ก นครหลวงโปรโมชั่น อันดับ 22, คมพยัคฆ์ ชินจิ โดโจ อันดับ 24 ”รุ่นฟลายเวต
นกน้อย ซีพีเอฟ อันดับ 7, เพชรมณี ซีพีเอฟ อันดับ 18

ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลก 2 สมัย ยังรั้งอันดับ 1 อย่างเหนียวแน่น จ่อชิงไฟต์บังคับกับ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า คู่ปรับเก่าเจ้าของแชมป์โลก ซึ่งจะไปฟังคำตัดสินของ wbc ในที่ประชุมใหญ่เดือนหน้าที่เม็กซิโก ส่วนนักชกไทยรายอื่นๆ ในรุ่นนี้มี อันดับ 21 ยอดมงคล ซีพีเอฟ และอันดับ 29 เพชรบางบอน ศิษย์หมอวิวัฒน์

Boxing-38

ส่วนในรุ่นอื่นๆ ยังมีรุ่นแบนตั้มเวต นวพล นครหลวงโปรโมชั่น อันดับ 3 ซึ่งมีโอกาสขึ้นอันดับ 1 หลังชกวันที่ 21 กันยายนนี้, เพชร ซีพีเอฟ อันดับ 7, อำนาจ รื่นเริง อันดับ 39 ”ซูเปอร์แบนตั้มเวตก้องฟ้า ซีพีเอฟ อันดับ 28 ตามติดด้วย ชายน้อย วรวุฒิ นักชกดาวรุ่งเบอร์ 1 ของไทยในตอนนี้ รั้งอันดับ 29 และรุ่นไลต์เวต อันดับ 34 อภิเชษฐ์ เพชรมณี ตบท้ายด้วยรุ่นใหญ่สุดรุ่นเวลเตอร์เวต นิค เฟรเซอร์ เข้าอันดับที่ 36

WP Boxing ปรับโผดึงชายน้อย ร่วมวง นวพล

“WP Boxing ศึกมวยโลกชิงแชมป์เอเชีย” ได้ประกาศคู่มวยประจำเดือนกันยายน ออกมาครบถ้วนแล้ว ซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2562 ณ สตูดิโอเวิร์คพอยท์ จังหวัดปทุมธานี และถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยท์หมายเลข 23 ตั้งแต่เวลา 15.15 น. เป็นต้นไป

Boxing-31

โดยคู่เอกของรายการเป็นการป้องกันตำแหน่งแชมป์ WBC Asia รุ่น แบนตั้มเวท พิกัด 118 ปอนด์ ของ นวพล นครหลวงโปรโมชั่น เจ้าของเข็มขัดแชมป์และรองแชมป์โลกอันดับ 3 รุ่น แบนตั้มเวท ของสภามวยโลก พบ แพทริค รุยโคโต ผู้ท้าชิงชาวอินโดนีเซีย อดีตแชมป์ประเทศอินโดนีเซีย

Boxing-32

ปัจจุบัน นวพล นครหลวงโปรโมชั่น นักชกวัย 28 ปี ดีกรีรองแชมป์โลกอันดับที่ 3 ในรุ่นแบนตั้มเวท ของ สภามวยโลก และเป็นแชมป์ WBC Asia รุ่น แบนตั้มเวท มีสถิติการชก ชนะ 46 ครั้ง เป็นการชนะน็อก 36 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง และ เสมอ 1 ครั้ง เคยผ่านการชิงแชมป์โลกมาแล้ว 1 ครั้ง แต่พลาดท่าแพ้ไป กลับมาคราวนี้ด้วยประสบการณ์จากในอดีต ความมุ่งมั่น และผลงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปราบนักชกฝีมือดี ไม่ว่าจะเป็น อำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลก IBF หรือ ซอนนี่ บอย จาโร่ อดีตแชมป์โลก WBC

Boxing-33

และล่าสุดบดเอาชนะน็อก ไรอัน ลูมาคัด ในยกที่ 3 เท่านั้น ทำให้อันดับโลกของ นวพล ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 และกลับมามีโอกาสลุ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้ง โดยไฟต์นี้ นวพล จะป้องกันแชมป์ WBC Asia รุ่น แบนตั้มเวท กับ แพทริค รุยโคโต ผู้ท้าชิงชาวอินโดนีเซีย อดีตแชมป์ประเทศอินโดนีเซีย มีสถิติการชก ชนะ 9 ครั้ง เป็นการชนะน็อก 7 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง

อีกคู่ที่น่าสนใจ พิกัด 122 ปอนด์ กำหนด 6 ยก ชายน้อย วรวุฒิ นักชกดาวรุ่งกำปั้นหนักความหวังใหม่ของวงการมวยสากลอาชีพไทย มีสถิติการชก ชนะ 6 ครั้ง เป็นการชนะน็อกทั้ง 6 ครั้งและ เสมอ 1 ครั้ง ยังไม่เคยแพ้ใคร มีดีกรีเป็นแชมป์โลกเยาวชน WBC Youth World รุ่น ซูเปอร์แบนตั้มเวท

Boxing-34

และรองแชมป์โลกอันดับที่ 29 ในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท ของ สภามวยโลก จะขึ้นชกอุ่นเครื่องกับ เฮนดริก บารองเซย์ นักชกชาวอินโดนีเซีย พิกัด 122 ปอนด์ กำหนด 6 ยก ก่อนที่ ชายน้อย จะมีคิวขึ้นชิงเข็มขัดแชมป์ WBC Asia รุ่น ซูเปอร์แบนตั้มเวท ในวันที่ 19 ตุลาคม 2562

ส่วนคู่อื่นๆ เพชรบางบอน ศิษย์หมอวิวัฒน์ รองแชมป์โลกอันดับ 29 ของ สภามวยโลก รุ่น ซูเปอร์ฟลายเวทและอดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก จะขึ้นชกกับ เรนส์ โรเซียร์ นักชกชาวฟิลิปปินส์ ในพิกัด 115 ปอนด์ กำหนด 6 ยก และ รอบชิงอันดับที่ 3 ศึกมวยเยาวชน WP Boxing All Thailand 2019 รุ่น ซูเปอร์ฟลายเวท พิกัด 115 ปอนด์ กำหนด 6 ยก ระหว่าง อภินาจ กุญแจทอง

Boxing-35

ตัวแทนจังหวัดนครสวรรค์ พบ สัณหเจต แก้วพูน ตัวแทนจังหวัดศรีสะเกษ และคู่ปิดท้าย ศึกมวยเยาวชน WP Boxing All Thailand 2019 รุ่น แบนตั้มเวท 118 ปอนด์ รอบแรกสายบน กำหนด 4 ยก ระหว่าง ณัฐวุฒิ เศษสุวรรณ ตัวแทนจังหวัดหนองบัวลำภู พบ อาทิตย์ แก้วบัณฑิต ตัวแทนจังหวัดพิษณุโลก

ด้าน “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ประธานบริษัท นครหลวงโปรโมชั่น เปิดเผยว่า “ สำหรับศึก WP Boxing วันเสาร์ที่ 21 กันยายนนี้ ได้มีการปรับโผดึง ชายน้อย วรวุฒิ เข้ามาอุ่นเครื่องอีกครั้ง ก่อนส่งชิงเข็มขัด WBC Asia รุ่น ซูเปอร์แบนตั้มเวท ในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ซึ่งเดิมทีจะเป็นคิวของ รอบชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์มวยรอบเยาวชน WP Boxing All Thailand 2019 รุ่น 115 ปอนด์ แต่ ยอดทนง เชื้อเพชร ตัวแทนจากจังหวัดพิษณุโลก ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม จึงจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน และดึงคู่ ชายน้อย เข้ามาชกแทน

Boxing-36

ส่วนคู่เอก นวพล นครหลวงโปรโมชั่น จะขึ้นป้องกันแชมป์ WBC Asia รุ่น แบนตั้มเวท กับ แพทริค รุยโคโต นักชกชาวอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ นวพล เป็นรองแชมป์โลกอันดับ 3 ในรุ่นแบนตั้มเวทของสภามวยโลกแล้ว พร้อมรอขอท้าชิงแชมป์โลกต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งต่อจากนี้ นวพล จะพลาดไม่ได้เลยและจะต้องรักษาฟอร์มการชกให้สม่ำเสมอและมีความกระหายอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อโอกาสมาถึงคราวนี้จะปล่อยให้หลุดมือไม่ได้อีกเป็นอันขาด

สุดท้ายก็ฝากแฟนมวยทุกท่านติดตามชมศึก WP Boxing ในวันเสาร์ที่ 21 กันยายนนี้ เวลา 15.15 น. เป็นต้นไป สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 หรือ รับชมทางช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ก Workpoint Entertainment แฟนเพจ และ ยูทูป WorkpointOfficial หรือ มาชมกันสดๆได้ที่เวิร์คพอยท์ สตูดิโอ โดยสามารถรับบัตรฟรีหน้างานได้ตั้งแต่เวลาบ่ายโมงตรง เป็นต้นไป

เผย..นวพล-ชายน้อย-เพชรบางบอน บู๊ WP Boxing

WP Boxing รายการมวยประจำเดือนกันยายน ของ นครหลวงโปรโมชั่น 21 กันยายน 2562 เปิดเผยคู่มวยออกมาแล้ว เริ่มคู่แรกประเดม เพชรบางบอน ศิษย์หมอวิวัฒน์ อดีตแชมป์เอเชียหลายสมัย พบกับ เรนส์ โรเซียร์ แชมป์ Philippines Boxing Federation คนปัจจุบัน

Boxing-29

คู่ที่สอง ว่าที่แชมป์โลก นวพล นครหลวงโปรโมชั่น เจอกับแพทริค ลุยโคโต เจ้าของสถิติ ชนะ 9(น็อก 7) แพ้(น็อก)1 เสมอ 1 *เสมอกะแพ้น็อกยก 9 ในการชิงแชมป์ WBO Oriental

Boxing-30

คู่ที่สาม ชายน้อย วรวุติ เจอกับจอมเก๋าแดนอิเหนา Hendrik Barongsay สถิติ ชนะ 29 (น็อก 18) แพ้ 30(แพ้น็อก 12) เสมอ 3 มาไทยเป็นว่าเล่นอยู่แล้วและเคยแพ้คะแนนนวพลที่รังสิตคลองสามมาแล้วด้วย

‘ยอดวิชา’ ประกาศแยกทาง ‘บัญชาเมฆ’ แล้ว

ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์ ยอดมวยไทยระดับเงินล้าน ประกาศขอแยกทางกับ บัวขาว ยอดมวยดังแห่งค่าย บัญชาเมฆ เสียแล้ว พร้อมเปิดการเจรจารับข้อเสนอจากโปรโมชั่นต่างๆ แบบอิสระ รวมทั้งเล็งเป้าไปที่ วัน แชมเปี้ยนชิพ โปรโมชั่นใหญ่ระดับโลก

Boxing-24

นายวุฒิศักดิ์ สาสังข์ อดีตเทรนเนอร์ค่ายมวยบัญชาเมฆ ซึ่งกลายมาเป็นลูกพี่คนสนิทของ ยอดวิชา เปิดเผยว่า นับแต่นี้ต่อไป นายคมสัน ทันตะขบ หรือนักมวยไทยชื่อดัง ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์ เดิม หรือ เข้มมวยไทยยิม ซึ่งย้ายไปอยู่ในสีเสื้อของ ค่าย “บัญชาเมฆ” หลังแยกทางกับ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง หัวหน้าคณะเข้มมวยไทยยิม ลูกพี่เดิมจนเป็นข่าวฮือฮาในวงการมวยไทยเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด ยอดวิชา ประกาศตัวเป็นไทยหลุดพ้นจากการเป็นนักมวยค่ายบัญชาเมฆแล้ว

นายวุฒิศักดิ์ แจ้งอีกว่า นับแต่นี้ต่อไปยอดวิชา มอบหมายให้ตนเป็นผู้จัดการส่วนตัว และดูแลผลประโยชน์ทั้งหมด พร้อมเปิดรับข้อเสนอเจรจาการชก และงานอีเวนต์โชว์ตัวต่างๆ สปอนเซอร์

รายใดสนใจติดต่อโดยตรงได้ที่ 08-9-351-9444 ส่วนอนาคตล่าสุด มีความสนใจอยากไปต่อยร่วมสังกัดของ “วัน แชมเปี้ยนชิพ” ONE CHAMPIONSHIP โปรโมชั่นยักษ์ใหญ่ระดับโลกอีกด้วย

Boxing-25

ยอดวิชา ถือเป็นนักมวยไทยชื่อดังระดับโลก ดีกรีแชมป์มวยท็อปคิงส์ 2 สมัย มีค่าตัวเงินล้านในการชกที่เมืองจีน เคยอยู่ภายใต้การสนับสนุนของ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง และ”เสี่ยหนุ่ม” นริศ ว่องประเสริฐการ แห่งท็อปคิงส์ ก่อนตกเป็นข่าวฮือฮาย้ายไปอยู่กับ บัวชาว บัญชาเมฆ แบบฟรีค่าตัว เมื่อเดือนเมษายน 2562 กระทั่งล่าสุดเป็นข่าว ยอดวิชา ขอแยกทางกับทางค่ายบัญชาเมฆอีกครั้ง เนื่องจากไม่พอใจที่ตนต้องโดนหักค่าตัวมากเกินไป