Category Archives: IBF

“รัตนพล” อดีตแชมป์กำปั้นโลกชาวไทยถูกลูกชายทำร้าย-ขู่ฆ่า

ถือเป็นข่าวช็อกวงการมวยบ้านเราเมื่อ เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้เปิดเผยเรื่องราวของ ปรีชา เจริญธาดา หรือชื่อในวงการกำปั้น รัตนพล ส.วรพิน อดีตแชมป์โลก สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) รุ่นมินิฟลายเวต ที่ถูกลูกชายแท้ๆ ทำร้ายร่างกาย และขู่ฆ่า

ซึ่งเรื่องนี้ลูกสาวของอดีตแชมป์โลกวัย 48 ปี ออกมาขอความช่วยเหลือผ่านเพจสายไหมต้องรอด ของ เอกภพ เหลืองประเสริฐ หลังจากที่พ่อถูกลูกชายคนโตที่เสพยาบ้าจนคลุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกาย และเอาปืนมาขู่หมายเอาชีวิต

“สวัสดีค่ะ หนูขอความช่วยเหลือหน่อยค่ะ พ่อหนูเป็นอดีตแชมป์โลกชื่อ รัตนพล ส.วรพิน พ่อหนูมีลูก 3 คนค่ะ พี่ชายคนโต เสพยาหนักมาก เวลาเมาชอบทำร้ายร่างกายพ่อกับแม่เป็นประจำ พ่อเห็นว่าเป็นลูกเลยได้แต่เดินหนีไป พ่อเองก็แก่มากแล้วค่ะ พี่ชายจะมีปืน ชอบพูดว่าจะเอามายิงคนในบ้านให้ตาย”

“ที่บ้านมีเด็กอยู่ 2 คนค่ะ ส่วนตัวหนูกับพี่สาวคนกลางทำงานคนละที่ ตัวหนูเองตั้งท้องอยู่ 7 เดือน หนูแจ้งพี่ตำรวจในพื้นที่ สน.ชนะสงคราม ไปหลายรอบแล้ว พี่ตำรวจเขาก็มาตรวจ แต่ก็บอกทำไรไม่ได้มาก เพราะกฎหมายผู้เสพคือผู้ป่วย หนูอยากให้ #เพจสายไหมต้องรอด ช่วยพ่อแม่หนูด้วย ตอนนี้หนูเป็นห่วงความปลอดภัยในบ้านมากๆ เลยคะ”

หลังจากทางเพจสายไหมต้องรอด ได้รับเรื่องดังกล่าว นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม เพื่อขอให้ส่งฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ไปนำตัวผู้ก่อเหตุซึ่งติดยาเสพติด มาดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการี และนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดยาเสพติด

สำหรับ “แรมโบ้” รัตนพล ส.วรพิน เป็นแชมป์โลกคนที่ 17 ของประเทศไทย มีสถิติการชก 68 ครั้ง ชนะ 59 (ชนะน็อก 48) แพ้ 8 และเสมอ 1 ครั้ง ก้าวขึ้นถึงตำแหน่งแชมป์โลก 105 ปอนด์ 2 สมัย ซึ่งจุดขายของเจ้าตัวคือเป็นมวยเดินบู๊ล้างผลาญออกหมัดไม่มีหยุด พร้อมกันนี้ยังมีเอกลักษณ์คือก่อนชกจะมีการตะโกน “ไชโย ไชโย ไชโย ย่าโมออกศึก” อีกด้วย

“แก่นนคร” เผชิญหน้า “อิโนอุเอะ” ลั่นพร้อมจะหอบเข็มขัดกลับบ้าน

ศึกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวต 2 สถาบัน (WBA ซูเปอร์ และ IBF) ระหว่าง “มอนสเตอร์” นาโอยะ อิโนอุเอะ เจ้าของแชมป์โลก พบกับ อรัญ ดีแป้น นักชกชาวไทย หรือชื่อในวงการมวย แก่นนคร จีพีพี เรือใบไข่มุก ที่สังเวียน เรียวโกคุ โคคุกิคัน, กรุงโตเกียว ในวันที่ 14 ธันวาคม 2564

โดยล่าสุดนักมวยทั้งคู่ได้มาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกในงานแถลงข่าวการชั่งน้ำหนักก่อนวันชก ที่โรงแรมเชอราตัน เมืองโยโกฮาม่า ผลปรากฎว่านักชกทั้งคู่ชั่งทีเดียวผ่าน อิโนอุเอะ ชั่งก่อนได้ที่น้ำหนัก 118 ปอนด์ ขณะที่ กำปั้นชาวไทยวัย 30 ปี ชั่งผ่านที่ 117.5 ปปอนด์ ผ่านพิกัด 118 ปอนด์ทั้งคู่

ซึ่งหลังผ่านการชั่งน้ำหนักเสร็จนักชกทั้งคู่ได้ยืนเผชิญหน้ากันเพื่อให้นักข่าวถ่ายภาพประมาณ 15 วินาที ก่อนที่จะจับมือกันเพื่อเป็นการแสดงมิตรภาพ จากนั้นก็แยกย้ายเพื่อกลับไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการชกในวันพรุ่งนี้

ทางด้าน แก่นนคร กล่าวผ่านสื่อว่า เตรียมฟิตซ้อมมานานกว่า 2 เดือน พร้อมกันนั้นยังได้ศึกษาเทป และสไตล์ของคู่ชกมาอย่างละเอียด ยอมรับว่าเขาเป็นนักชกที่อันตรายมาก แต่ตน และเทรนเนอร์พร้อมทีมงานหาทางแก้ทางเอาไว้แล้ว เชื่อมั่นจะคว้าเข็มขัดแชมป์โลกกลับเมืองไทยได้แน่

ขณะที่ นาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์โลก เปิดใจถึงไฟต์นี้ว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาชกในบ้านเกิดอีกครั้งในรอบกว่าสองปี ซึ่งได้มีการเตรียมพร้อมฝึกซ้อมมานานกว่า 3 เดือน ทำให้มีความมั่นใจเต็มที่ว่าจะเดินหน้าคว้าชัยชนะในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน

สำหรับเกมการชกของ นาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวต 2 สถาบัน (WBA และ IBF) กับ แก่นนคร จีพีพี เรือใบไข่มุก จะมีขึ้นที่สังเวียน เรียวโกคุ โคคุกิคัน, กรุงโตเกียว ในวันที่ 14 ธันวาคม 2564 แต่น่าเสียดายที่จะไม่มีการถ่ายทอดสดกลับมายังประเทศไทย อย่างไรก็ตามทีมข่าวกีฬาของเราจะรายงานผลให้ได้ทราบกันอย่างแน่นอน

“กาเนโล่” ปิดบัญชี “แพลนท์” ได้ในยกที่ 11 พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่

ซาอูล “กาเนโล่” อัลวาเรซ กำปั้นชาวเม็กซิกัน ผงาดคว้าแชมป์โลกรุ่น ซูเปอร์ มิดเดิ้ลเวท 4 สถาบัน (WBC, WBA, WBO และ IBF) หลังคว่ำ คาเล็บ แพลนท์ นักชาวชาวสหรัฐฯ กระชากเข็มขัดแชมป์สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) มาครองได้เพิ่มอีกเส้น

เกมการชกของทั้งคู่จัดขึ้นที่ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ การ์เด้น อารีน่า, ลาสเวกัส เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผานมา โดยคู่นี้มีปัญหากันตั้งแต่ในงานแถลงข่าวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เนื่องจาก กำปั้นชาวสหรัฐฯ ไปด่าแม่ของกาเนโล่ ก่อนเกิดเรื่องชกต่อยกันจนทีมงานต้องเข้ามาแยก

เปิดฉากมาในช่วง 3 ยกแรก คาเล็บ แพลนท์ ที่ได้เปรียบในเรื่องของส่วนสูง และช่วงชกเป็นฝ่ายเดินออกหมัดแย็บเล่นงานได้อย่างจะแจ้ง รวมทั้งเลือกวนถอยอยู่วงนอกไม่เข้าปะทะ ขณะที่ กาเนโล่ พยายามเดินติดเพื่อที่จะออกหมัดตัดลำตัวไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามยิ่งมากยกขึ้น กำปั้นชาวเม็กซิกัน เริ่มคุมเกมได้เหนือกว่าด้วยการเร่งเครื่องเดินหน้าบดออกหมัดหนักๆ เล่นงานทั้งใบหน้าสลับลำตัวทำเอา นักชกชาวสหรัฐฯ มีอาการให้เห็นเหมือนกัน แต่ก็ยังเอาตัวรอดไปได้ในทุกยก

จนเข้าสู่ยกที่ 11 “กาเนโล่” คุมเกมได้เหนือกว่าชัดเจน เดินปล่อยหมัดฮุกซ้ายเข้าหน้าก่อนตามด้วยอัปเปอร์คัตขวาส่ง แพลนท์ ทรุดลงไปกองให้กรรมการนับถึง 8 จากนั้นถือเป็นโอกาสทองของ “เจ้าหัวแดง” เมื่อเดินเร่งเครื่องไล่ถลุงก่อนออกหมัดย้ำๆ ส่งคู่ชกหงายท้องลงไปให้กรรมการยุติการชกในที่สุด

จากชัยชนะในไฟต์นี้ทำให้ ซาอูล “กาเนโล่” อัลวาเรซ กำปั้นชาวเม็กซิกันวัย 31 ปี รวบแชมป์โลก 4 สถาบัน (WBC, WBA, WBO และ IBF) และ เข็มขัด The Ring มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นนักชกคนแรกของโลกที่สามารถทำได้สำเร็จในพิกัดนี้ นอกจากนี้ยังยัดเยียดความปราชัยไฟต์แรกในชีวิตให้กับ คาเล็บ แพลนท์ ได้รู้จักอีกด้วย

แข็งแกร่งเกินต้านทาน “อิโนอุเอะ” ถลุงลำตัว “ดาสมารินาส” ลงกองยก 3

การแข่งขันชกมวยโลก รายการ ท็อป แรงก์ บ็อกซิ่ง คู่เอก เดิมพันเข็มขัดแชมป์โลก รุ่นแบนตั้มเวท สมาคมมวยโลก (WBA ซูเปอร์) และ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ที่เวอร์จิ้น โฮเทล, ลาส เวกัส, ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา

“มอนสเตอร์” นาโอยะ อิโนอุเอะ นักชกชาวญี่ปุ่นเจ้าของเข็มขัด 2 สถาบัน ขึ้นสังเวียนป้องกันตำแหน่งแชมป์ไฟต์บังคับกับ ไมเคิ่ล ดาสมารินาส ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ รองเบอร์ 1 ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF)

เปิดฉากมายกแรก นาโอยะ อิโนอุเอะ เดินลุยตามสไตล์มีหมัดขวานำแล้วตามด้วยหมัดชุดเล่นงานทั้งบนสลับล่าง

ขณะที่ ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ อาศัยดึงจังหวะไม่เข้าแลกใช้หมัดแย็บคอยก่อกวนอยู่วงนอก

ยกสอง แชมป์โลกชาวญี่ปุ่น เดินติดเร็วขึ้นออกหมัดตัดลำตัวหนักๆ ต่อเนื่อง ก่อนที่กลางยกจะอัดเข้าชายโครงขวาย้ำๆ ทำเอา ดาสมารินาส ต้องทิ้งตัวลงไปให้กรรมการนับถึง 8 ก่อนกัดฟันลุกขึ้นมาสู้ต่อ

ยกสาม อิโนอุเอะ ที่เปิดแผลในยกก่อนเป็นฝ่ายเดินตัดลำตัวต่อเนื่อง ก่อนฮุกซ้ายเข้าท้องส่ง นักชกฟิลิปปินส์ ลงไปให้กรรมการนับอีกครั้ง

แต่ ดาสมารินาส ก็กัดฟันลุกขึ้นมาได้อีกก่อนโดนซ้ายลำตัวหล่นลงไปให้กรรมการยุติการชกในที่สุด

ทำให้ นาโอยะ อิโนอุเอะ เป็นฝ่ายเอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 3 ป้องกันแชมป์รุ่นแบนตั้มเวท สมาคมมวยโลก (WBA ซูเปอร์), สหพันธ์มวยนานาชาติ IBF และ The Ring ไว้ได้อีกสมัย พร้อมเพิ่มสถิติเป็นชนะรวด 21 ไฟต์ (ชนะน็อก 18 ครั้ง)

กรรมการไม่ยอมยุติการชกหลังพี่เลี้ยงโยนผ้าขาวขึ้นบนเวที

โดยคู่นี้เป็นการเดิมพันหาผู้ชนะเข้าไปชิงแชมป์โลก รุ่นไลท์เวลเตอร์เวทของ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) กับ จอช เทย์เลอร์ นักชกชาวสกอตแลนด์เจ้าของเข็มขัดแชมป์ ในช่วงปลายปีนี้

เกิดเรื่องสุดแปลกในวงการกำปั้นโลกรายการ แมตช์รูม บ็อกซิ่ง คู่ระหว่าง ลูอิส ริตสัน นักชกชาวอังกฤษ กับ เจเรเมียส ปอนเซ่ กำปั้นชาวอาร์เจนติน่า เดิมพันหาผู้ชนะเข้าไปชิงแชมป์โลก รุ่นไลท์เวลเตอร์เวทของ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) กับ จอช เทย์เลอร์ ที่สังเวียน อีเกิ้ลส์ คอมมิวนิตี้ อารีน่า, ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา

โดยจังหวะอื้อฉาวเกิดขึ้นในยกที่ 10 ของการชก เมื่อ ลูอิส ริตสัน กำปั้นเจ้าถิ่นที่อยู่ในสภาพสุดบอบช้ำโดนตัดลำตัวทรุดลงไปให้กรรมการนับ 8 ก่อนลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ก็โดนพายุหมัดเล่นงานต่อเนื่องทำให้ทางมุมพี่เลี้ยงตัดสินใจโยนผ้าขอยอมแพ้

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ สตีฟ เกรย์ กรรมการห้ามมวยชาวอังกฤษ กลับไม่ยอมสั่งยุติการชก แต่กลับเดินไปหยิบผ้าขาวโยนทิ้งออกไปนอกเวที แล้วสั่งให้เกมการชกดำเนินต่อไปเหมือนเดิม

ซึ่งแน่นอน เจเรเมียส ปอนเซ่ ยังเดินหน้าไล่ถลุงอย่างเมามันก่อนส่ง ลูอิส ริตสัน หล่นลงไปให้กรรมการนับ 8 อีกครั้ง จากนั้นก็ไล่ยำใหญ่จนท้ายสุด สตีฟ เกรย์ ต้องตัดสินใจยุติการชกด้วยตัวเอง

หลังไฟต์จบลง กรรมการห้ามมวยชาวอังกฤษ ได้เดินไปอธิบายกับทีมงานของ ลูอิส ริตสัน ในห้องแต่งตัวถึงการกระทำดังกล่าวว่า “ผมรู้ว่าหลายคนคงแปลกใจกับการกระทำของผม แต่เนื่องจากหมัดที่โดนเป็นการโดนในส่วนของลำตัว ไม่ได้โดนที่ศีรษะ ทำให้ผมตัดสินใจโยนผ้าออกไปเพราะผมเห็นว่าเขายังสู้ได้”

สำหรับ สตีฟ เกรย์ ผู้ตัดสินชาวอังกฤษ มีสถิติลงทำหน้าที่ตัดสินบนสังเวียนในระดับอาชีพมาแล้วกว่า 1,000 ไฟต์ ในรอบกว่า 20 ปี ถือว่ามีประสบการณ์มากทีเดียว แต่การกระทำของเจ้าตัวในครั้งนี้ถือว่ากลายเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว

“เทย์เลอร์” ได้ 2 นับ ก่อนชนะคะแนน “รามิเรซ” อย่างเป็นเอกฉันท์

การแข่งขันชกมวย รายการ ท็อป แรงค์ (Top Rank) ที่สังเวียนกำปั้น เวอร์จิ้น โฮเทล, ลาส เวกัส, สหรัฐฯ เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

คู่เอกของรายการ เดิมพันแชมป์โลก 4 สถาบัน รุ่นจูเนียร์ เวลเตอร์เวท เป็นการเจอกันของ จอช เทย์เลอร์ นักชกชาวสกอตแลนด์ แชมป์โลก 2 สถาบัน (WBA และ IBF) กับ โฮเซ่ รามิเรซ กำปั้นชาวสหรัฐฯ แชมป์ (WBC และ WBO)

เปิดเกมยกแรก นักชกทั้งคู่ยังดูเชิงกันเป็นส่วนใหญ่ จอช เทย์เลอร์ อาศัยหมัดแย็บเล่นงานจากวงนอกไม่ผลีผลามบุกแลกวงใน ขณะที่ กำปั้นชาวสหรัฐฯ ที่ช่วงชกสั้นกว่าพยายามพุ่งเข้าหาเพื่อตัดลำตัวด้วยหมัดซ้ายบ่อยครั้ง

ยกสอง กำปั้นชาวสกอตแลนด์ ยังคงใช้แผนดึงจังหวะแล้วต่อยจากวงนอกเล่นงานเป็นระยะ ด้าน โฮเซ่ รามิเรซ พยายามชวนทะเลาะด้วยการเดินติดออกหมัดฮุกเล่นงานที่ลำตัวสลับใบหน้า

ยกสาม – ยกห้า โฮเซ่ รามิเรซ เริ่มเหนือกว่าหลังเปลี่ยนแผนมาเดินบุกเร็วขึ้นไล่ตัดลำตัวหนักๆ หลายหมัดทำเอา จอช เทย์เลอร์ ถึงกับต้องโผเข้ากอด จากนั้นก็ระดมหมัดอัพเปอร์คัทเล่นงานใบหน้าทำเอา นักชกชาวสกอตแลนด์ ถึงกับถอยจนติดเชือก

ยกหก ถือเป็นจุดเปลี่ยนของไฟต์เลยเมื่อ กำปั้นชาวสหรัฐฯ ที่กำลังได้ใจเดินลุยทันทีหลังเสียงระฆังดังแต่กลับถูก จอช เทย์เลอร์ ดักปล่อยซ้ายเข้าปลายคางเต็มๆ หล่นลงไปให้กรรมการนับถึง 8 จากนั้นเป็นทางฝั่ง เทย์เลอร์ ที่คุมสถานการณ์ชกได้หมด

ยกเจ็ด รามิเรซ ที่ฟื้นตัวแล้วพยายามเดินกดดัน เทย์เลอร์ แต่ก็ไม่ดุดันเหมือนช่วงต้นๆ ทำให้ นักชกชาวสกอตแลนด์ รับมือได้ไม่ยาก แถมในช่วงปลายยก ยังอัพเปอร์คัทซ้ายเข้าเต็มๆ ส่ง กำปั้นชาวสหรัฐฯ หล่นลงไปให้กรรมการนับอีกครั้ง ซึ่งหนนี้ดูย่ำแย่เอามากๆ เมื่อไม่สามารถทรงตัวได้อยู่แต่ระฆังก็ช่วยไว้ได้ทัน

ช่วงที่เหลือ แม้ นักชกชาวสกอตแลนด์ จะไม่สามารถปิดบัญชีได้ แต่ก็คุมรูปเกมไว้ได้หมด เหนือกว่าในทุกยกทำให้ครบ 12 ยก กรรมการรวมคะแนนพร้อมทั้งชูมือให้ จอช เทย์เลอร์ เป็นฝ่ายชนะคะแนนแบบเอกฉันท์ 114-112 ทั้งสามเสียง

ส่งผลให้ จอช เทย์เลอร์ คว้าเข็มขัดแชมป์โลก 4 สถาบัน (WBA, IBF, WBC และ WBO) เอาไว้ได้ พ่วงด้วยเข็มขัด เดอะ ริงก์ (The Ring) รวมทั้งเพิ่มสถิติการชกเป็นชนะรวด 18 ไฟต์ แถมเป็นการชนะน็อก 13 ครั้ง ซึ่งไฟต์ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเอาชนะน็อก ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก กำปั้นชาวไทยไปได้ในยกแรก และทำให้ชื่อเป็นที่คุ้นหูแฟนหมัดมวยชาวไทย

“เบเตอร์บิเยฟ” ยังมาดุเหมือนเดิม ไล่ถลุงคู่ชกกองยก 10 จนพี่เลี้ยงขอยอมแพ้

อาตูร์ เบเตอร์บิเยฟ กำปั้นชาวรัสเซีย ยังเดินหน้าสร้างสถิติเก็บชัยชนะไฟต์ที่ 16 ในการชกอาชีพ หลังเป็นฝ่ายเอาชนะ TKO อาร์เต็ม ดีนส์ ผู้ท้าชิงชาวเยอรมนี เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา

โดย นักชกจอมเก๋าวัย 36 ปี ขึ้นสังเวียนในบ้านเกิด โกดินก้า ไอซ์ พาเลซ, มอสโก เพื่อป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก รุ่นไลต์เฮฟวี่เวต 2 สถาบัน (สภามวยโลก WBC และ สหพันธ์มวยนานาชาติ IBF)

ซึ่งตลอดเกมการชก แชมป์โลก เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยในยกแรกก็สามารถทิ้งหมัดขวาใส่ผู้ท้าชิงทรุดลงไปนั่งให้กรรมการนับถึง 8 แต่โชคดีที่ระฆังหมดยกช่วยเอาไว้ได้

จากนั้น อาตูร์ เบเตอร์บิเยฟ ก็เป็นฝ่ายคุมเกมไว้ได้หมด ก่อนที่ในยก 10 จะมาปล่อยซ้ายเข้าเต็มกรามส่ง อาร์เต็ม ดีนส์ ทิ้งตัวลงไปกองให้กรรมการนับอีกครั้ง แต่หนนี้พี่เลี้ยงทนดูไม่ไหวตัดสินใจโยนผ้าขอยอมแพ้

ทำให้ อาตูร์ เบเตอร์บิเยฟ ป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกไว้ได้อีกครั้ง พร้อมทั้งสร้างสถิติชนะรวด 16 ไฟต์ ไม่เคยแพ้ใคร แถมยังเป็นการปิดบัญชีคู่ชกด้วยการชนะน็อกรวดทั้ง 16 ครั้ง

โลเปซ ลุยถิ่นจิงโจ้ ยังไม่สามารถล้มแชมป์ได้ !!

ดูเหมือน Bob Arum โปรโมเตอร์ของ Top Rank จะไม่ได้พูดเล่นเรื่องการถอนการจัดรายการในเขตรัฐเนวาด้านะครับเมื่อล่าสุดทาง BoxingScene ได้รายงานมาแล้วว่าขณะนี้ทาง Top Rank กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อให้ Teofimo Lopez (16-0, 12 KO) แชมป์โลกสี่สถาบันรุ่นไลท์เวธขึ้นป้องกันแชมป์กับ George Kambosos Jr. (19-0, 10 KO) ผู้ท้าชิงไฟต์บังคับของ IBF ในช่วงเดือนเมษาปีหน้าที่บ้านเกิดของ Kambosos อย่างออสเตรเลีย

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ด้วยว่าไฟต์นี้จะมีการเปิดให้แฟนมวยเข้าชมรายการในสนามได้ในเกณฑ์จำกัดตามกฎระเบียบป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทั้งนี้เพราะออสเตรเลียเองก็เคยมีการเปิดสนามทำนองนี้มาก่อนแล้ว เช่น ไฟต์ Tim Tszyu-Jeff Horn เมื่อเดือนสิงหาที่มีผู้ชมในสนามมากถึง 16,000 คนเลยทีเดียว

ฟอร์มของทั้งคู่ Lopez เพิ่งเถลิงขึ้นครองตำแหน่งราชันย์รุ่นไลท์เวธไปเมื่อเดือนก่อนจากการชนะคะแนน Vasyl Lomachenko ในไฟต์ล้มแชมป์โลกสี่สถาบันหลัก

ส่วน Kambosos สร้างชื่อเมื่อปีก่อนจากการชนะคะแนนอดีตแชมป์โลกอย่าง Mickey Bey ก่อนมาชนะคะแนน Lee Selby อดีตแชมป์โลกอีกคนในไฟต์ตัดเชือกของ IBF เมื่อเดือนก่อนเหมือนกัน

“โลเปซ” ชนะคะแนน “โลมาเชนโก้” ผงาดรวบเข็มขัดแชมป์ 5 เส้น

Boxing-283

การแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก รุ่นไลท์เวท ที่สังเวียน เดอะ บับเบิ้ล, เอ็มจีเอ็ม แกรนด์, ลาส เวกัส เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา

คู่เอกของรายการ วาซิล โลมาเชนโก้ ยอดกำปั้นชาวยูเครน แชมป์รุ่นไลท์เวท 4 สถาบัน เจอกับ เตโอฟิโม่ โลเปซ นักชกฟอร์มสดจากสหรัฐฯ แชมป์สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) เจ้าของสถิติชนะรวด 15 ไฟต์

เปิดเกมมายกแรก เตโอฟิโม่ โลเปซ ไม่มีเกรงกลัวเดินหน้าออกอาวุธหนักเข้าใส่ทันที ปล่อยขวาตรงเล่นงานใบหน้า รวมทั้งมีหมัดชุดตัดลำตัวเป็นระยะ ขณะที่กำปั้นชาวยูเครน ดูจะรัดกุมไม่ออกหมัดมากนัก

เข้าสู่ยก 2-3 รูปเกมยังเป็นเหมือนเดิมคือ กำปั้นชาวมะกันยังเดินหน้าออกหมัดได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหมัดอัปเปอร์คัตเล่นงานใบหน้าสลับลำตัวอย่างต่อเนื่อง ฝั่ง โลมาเชนโก้ ยังทำอะไรคู่ชกไม่ได้ถนัดนัก

ยก 4-6 เตโอฟิโม่ โลเปซ ดูเหมือนจะคุมสถานการณ์ไว้ได้หมด เดินระดมหมัดเล่นงานเหมือนเดิม ขณะที่ ยอดกำปั้นชาวยูเครน พยายามออกหมัดสวนแต่ก็ยังดูเป็นรองพอสมควร

ยก 7-9 วาซิล โลมาเชนโก้ แก้เกมมาดีเป็นฝ่ายเดินลุยหนัก ออกอาวุธเข้ากดดันจนผู้ท้าชิงต้องวนถอยออกจนติดเชือก แถมปล่อยขวาเข้าหน้าได้หลายหมัดเล่นเอาเปลือกตาซ้ายบวมเป่ง

ช่วงยกที่เหลือ ทั้งคู่เปิดเกมแลกหมัดกันอย่างสนุด โลมาเชนโก้ ยังคงพยายามเดินเร่งออกหมัดเล่นงาน แต่ โลเปซ ที่ไวกว่าก็ฉากหลบแล้วมีหมัดสวนตลอดไม่ยอมเป็นเป้านิ่ง

ครบ 12 ยก กรรมการรวมคะแนนก่อนชูมือให้ เตโอฟิโม่ โลเปซ เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้แบบเอกฉันท์ (116-112, 119-109 และ 117-111) กลายเป็นแชมป์โลก 5 เส้นประกอบด้วย สมาคมมวยโลก (WBA ซูเปอร์), องค์กรมวยโลก (WBO), สภามวยโลก (WBC แฟรนไชส์), สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) และ เดอะ ริงก์

เผยค่าเหนื่อยของ “ดาวเหนือ” กำปั้นไทย ในไฟต์ชิงแชมป์โลกที่ผ่านมา

Boxing-298

ควันหลงหลังความพ่ายแพ้ของ ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก กำปั้นชาวไทยที่เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ จอช เทย์เลอร์ นักชกชาวสกอตแลนด์ พลาดโอกาสคว้าแชมป์โลก รุ่นไลท์-เวลเตอร์เวท 2 สถาบัน (WBA และ IBF)

พ่วงด้วยเข็มขัด เดอะ ริงก์ (The Ring) เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา

โดยรูปเกมการชกก็อย่างที่ทราบกันดีว่า นักชกไทยวัย 24 ปี เสียสถิติแพ้เป็นครั้งแรกในชีวิต หลังโดนหมัดซ้ายตัดลำตัวหล่นลงไปกองให้กรรมการนับถึง 10 ในเวลาเพียงแค่ 2 นาที 41 วินาที ของยกแรกเท่านั้น พลาดโอกาสคว้าแชมป์โลกอย่างน่าเสียดาย

อย่างไรก็ตามเราลองไปดูเรื่องราวนอกสังเวียนเกี่ยวกับค่าตัวการชกในไฟต์นี้กันหน่อย โดย sportekz เว็บไซต์กีฬาต่างชาติ ได้เปิดเผยตัวเลขค่าเหนื่อยของนักชกในไฟต์นี้ออกมาให้แฟนๆ ได้ทราบกัน

ซึ่งตัวของ จอช เทย์เลอร์ แชมป์โลกวัย 29 ปี รับไป 1.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 61 ล้านบาท) ขณะที่ ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก หรือชื่อจริง อภินันท์ คงสง ผู้ท้าชิงชาวไทย รับไป 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 20 ล้านบาท) ถือว่าเป็นรายได้ที่มากที่สุดในการชกอาชีพของทั้งคู่

นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งค่าถ่ายทอดสดจาก ESPN+ (ในสหรัฐฯ) และ BT Sports (ในสหราชอาณาจักร) อีกต่างหาก โดยฝั่งแชมป์โลกจะได้ 65% ส่วน กำปั้นชาวไทยจะได้อีก 35%

ซึ่งหากนำไปเทียบกับ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกชาวไทย ที่เคยได้รับไฟต์ล่าสุดในการเจอกับ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า ถือว่าเยอะกว่าเพราะในครั้งนั้น “เจ้าแหลม” ได้ค่าตัวอยู่ที่ 500,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 15.9 ล้านบาท)