Category Archives: วิจารณ์นักชก

มาดูสภาพปัจจุบัน ของ “นาซีม ฮาเหม็ด” อดีตกำปั้นมาดกวน ที่มีลีลาสุดพริ้ว

กลายเป็นภาพที่ทำให้แฟนมวยถึงกับอึ้งกับสภาพของ ปรินซ์ นาซีม ฮาเหม็ด อดีตกำปั้นชาวอังกฤษจอมยียวน ดีกรีแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวต 3 สถาบัน (WBO, IBF และ WBC) ในวัย 48 ปี ที่ปล่อยตัวจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

โดยล่าสุดสื่อกีฬาของเกาะอังกฤษหลายสำนัก ได้จับภาพเจ้าตัวขณะออกมาเดินเล่นบริเวณคฤหาสน์หรูที่เจ้าตัวเช่าอยู่ในราคา 1.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 60 ล้านบาท) ติดพระราชวังวินด์เซอร์ ที่เป็นพระราชฐานหลักของราชวงศ์อังกฤษ

งานนี้ทำเอาแฟนกำปั้นหลายรายถึงกับจำเจ้าตัวไม่ได้เพราะด้วยขนาดร่างกายที่ใหญ่ขึ้นมากจากแต่ก่อนแถมน่าจะมีน้ำหนักตัวทะลุเกิน 100 กิโลกรัม ทั้งที่สมัยยังชกมวยเจ้าตัวอยู่ในพิกัดเพียงแค่ 58 กิโลกรัม แถมสไตล์การชกต้องบอกว่าเป็นเจ้าความเร็วคนหนึ่งที่ออกหมัดโจมตีคู่ชกได้อย่างว่องไว

สำหรับ ปรินซ์ นาซีม ฮาเหม็ด ถือเป็นยอดมวยที่สร้างความเอนเตอร์เทนท์ในวงการกำปั้น ฝากผลงานไว้ที่ ชก 37 ครั้ง ชนะ 36 (ชนะน็อก 31) และแพ้เพียงแค่ครั้งเดียวต่อ มาร์โก อันโตนิโอ บาร์เรร่า กำปั้นชาวเม็กซิกัน ก่อนแขวนนวมในปี 2002

ด้วยจุดขายในเรื่องของความยียวน ทำให้มีทั้งกองเชียร์ และกองแช่งติดตามชมการชกของเจ้าตัวทั่วโลก จนเจ้าตัวโกยเงินในการค้ากำปั้นไปได้มากถึง 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) ถือเป็นนักมวยที่ทำเงินมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศในปี 2003 เป็นรองเพียง เลนน็อกซ์ ลูอิส แชมป์โลกรุ่นยักษ์เท่านั้น

หมัดหนักไม่แพ้กัน “นิโก้ อาลี” หลานชาย “มูฮัมหมัด อาลี” เปิดตัวชกอาชีพไฟต์แรก

กลายเป็นที่จับตามองในวงการกำปั้นทันทีสำหรับ นิโก้ อาลี วอลช์ กำปั้นดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ หลายชายแท้ๆ ของ มูฮัมหมัด อาลี นักชกระดับตำนาน แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต ที่ขึ้นสังเวียนมวยอาชีพเป็นครั้งแรก

โดย กำปั้นวัย 21 ปี เดินตามรอยเท้าของคุณปู่ผู้ล่วงลับได้อย่างน่าประทับใจ หลังขึ้นสังเวียน ฮาร์ด ร็อก โฮเทล, ทัลซ่า พบกับ จอร์แดน วีคส์ นักชกวัย 29 ปี ที่ประสบการณ์เหนือกว่า (ชนะ 4 แพ้ 1) ในพิกัดรุ่นมิดเดิ้ลเวต

อย่างไรก็ตาม เกมการชกจบลงเพียงแค่ยกแรกเท่านั้น เมื่อ นิโก้ อาลี ออกสเต็ปฟุตเวิร์ค ดักปล่อยหมัดฮุกขวาเข้าเต็มคางส่ง จอร์แดน วีคส์ หล่นลงไปให้กรรมการนับ 8 ก่อนคู่ชกจะกัดฟันลุกขึ้นมาสู้ต่อ

จากนั้น นิโก้ อาลี ไม่ปล่อยโอกาสทองเดินติดปล่อยหมัดหนักๆ เล่นงานเป็นชุด ทำให้กรรมการตัดสินใจยุติการชกหลังมองว่าคู่ชกไม่สามารถสู้ต่อได้ คว้าชัยไฟต์เปิดตัวโดยใช้เวลาเพียงแค่ 70 วินาทีเท่านั้น

หลังการชก กำปั้นดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ เปิดใจว่า “มันเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามความคาดหวังของผม และแน่นอน คุณปู่ของผม ผมคิดถึงท่านมาก”

“เจริญทอง” อดีตนักมวยเงินแสน เตรียมเปิดร้านขนมจีน เลี้ยงลูกน้องในค่าย ช่วงวิกฤตโควิด-19

Boxing-292

อดีตนักมวยเงินแสน เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง ผันตัวเองหารายได้เสริม เปิดร้านขนมจีนคลองจิก เลี้ยงลูกน้องในค่าย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19

วันที่ 3 ก.พ. 64 จากปัญหาการแพร่ระบาดของ covid-19 ส่งผลให้ เศรษฐกิจ ภายในประเทศพังเสียหาย มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจหลายประเภทต้องหาลู่ทาง และปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอ และอยู่รอดต่อไปได้

เจริญทอง ขุนมณี หรือ เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง หรือครูเป็ด อดีตแชมป์มวยลุมพินี 4 รุ่น เจ้าของ ค่ายมวย เจริญทองเกียรติบ้านช่อง ย่านเหม่งจ๋าย แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เป็นอีก 1 คนที่ตัดสินใจ เปิดร้านขนมจีนคลองจิก โดยใช้พื้นที่หน้าค่ายมวยที่ยังว่างอยู่มาทำเป็นร้านอาหาร 

โดยเปิดร้านวันแรก เพื่อนๆ นักกีฬาต่างมาให้กำลังใจอุดหนุนกันคับคั่ง ไม้ว่าจะเป็น สมจิตร จงจอหอ นักมวยสากลสมัครเล่น เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก/สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อ ทีมชาติไทย ขวัญใจสาวๆ

เจริญทอง กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid-19 ที่ระบาด ในประเทศไทยรอบ 2

ส่งผลให้ รายได้จาก การเปิดยิม สอนมวยไทย รายได้สูญหาย ไปถึง 80% เดิมที เดือนนึงจะมีกำไร มากกว่า 2 แสนบาท แต่ตอนนี้ ตลอดทั้งเดือน มีรายได้ เหลือ ไม่ถึง 50,000 บาท

จึงไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ทั้งค่า เช่า สถานที่ ค่าน้ำค่าไฟ และค่าจ้างลูกน้อง อีก 4-5 ชีวิต ต้นจึงต้องปรับเปลี่ยน รวมถึงหาลู่ทางทำมาหากิน เพิ่มเติม เพื่อให้มีรายได้มากขึ้น จึงตัดสินใจเปิดร้านขายขนมจีนคลองจิก

ครูเป็ด ยังกล่าวต่ออีกว่า ตั้งแต่โควิด 19 ระบาด สถานการณ์ ของค่ายมวย ค่อนข้างแย่ ไม่ใช้เฉพาะค่ายมวยของตนเป็นทุกค่าย จากเมื่อก่อนมีเด็กมาเรียนในค่าย 20-30 คน ตอนนี้เหลือแค่เพียง 5-6 คน การหาอาชีพเสริมจึงจำเป็นสำหรับตนหากการขายขนมจีนไปได้ดี ก็ทำต่อ แต่ถ้าไม่เปลี่ยน โดยในอนาคตอันใกล้นี้ตนจะเปิดสอนมวยไทยออนไลน์ด้วย

สำหรับ ร้านขนมจีนคลองจิก เปิดเวลา 09.00-16.00 น. มีน้ำยาหลากหลาย ตั้งอยู่ที่หน้าค่ายมวยเจริญทอง เกียรติบ้านช่อง ตรง 4 แยก เหม่งจ๋าย รามคำแหง 39 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

“ไวลเดอร์ VS ฟิวรี่” มวยโลกรุ่นยักษ์ ได้รับการโหวตให้เป็น สุดยอดไฟต์แห่งปี 2020

Boxing-287

แฟนกำปั้นทั่วโลกเทคะแนนโหวตให้ ไฟต์รีแมตช์ของ ดีออนเตย์ ไวลเดอร์ แชมป์โลกชาวมะกัน พบกับ “ยิปซีคิง” ไทสัน ฟิวรี่ ยอดนักชกชาวอังกฤษ เป็นเจ้าของตำแหน่ง “ไฟต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2020” ของทาง สภามวยโลก (WBC)

โดยเกมการชกของการเจอกันภาค 2 ต้องบอกว่าสนุกทีเดียว แต่เป็น ไทสัน ฟิวรี่ ที่ทำได้ดีกว่าเป็นฝ่ายเล่นงานแชมป์โลกลงไปกองให้กรรมการนับ 8 ได้ถึงสองครั้งในยกที่ 3

และยกที่ 5 ก่อนที่ท้ายสุดจะไปจบลงในยกที่ 7 เนื่องจากพี่เลี้ยงของ ดีออนเตย์ ไวลเดอร์ ตัดสินใจโยนผ้า ก่อนที่กรรมการจะปรี่เข้ายุติการชกทันที

ทำให้ ไทสัน ฟิวรี่ ยอดนักชกชาวอังกฤษ คว้าเข็มขัดแชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นเฮฟวี่เวท มาครองได้แบบสวยหรู พร้อมเข็มขัดเดอะริงก์ มาครองได้สำเร็จ รวมถึงยัดเยียดความปราชัยไฟต์แรกในชีวิตให้กับ ดีออนเตย์ ไวลเดอร์

“ฟลอยด์” หัวร้อนลั่นอย่าเอา “วันเฮง” มาเทียบสถิติกับผม

Boxing-282

“เดอะมันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อดีตกำปั้นไร้พ่ายชาวสหรัฐฯ ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่าเขาคือเบอร์ 1 ในวงการกำปั้นโลกตลอดกาล เหนือกว่าทั้ง มูฮัมหมัด อาลี, ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ หรือแม้กระทั่ง ชยพล มูลศรี (วันเฮง มีนะโยธิน) กำปั้นชาวไทยที่ทำสถิติชนะรวด 54 ครั้ง

โดย อดีตนักชกวัย 43 ปี ไม่ค่อยพอใจที่สื่อหลายสำนักให้คะแนนเจ้าตัวต่ำกว่า มูฮัมหมัด อาลี และ ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ สองตำนานวงการหมัดมวย

โดย กล่าวว่า “ถ้า อาลี เก่งจริงเขาจะแพ้ให้กับนักชกอย่าง ลีออน สปิงค์ ที่เพิ่งชกได้แค่ 7 ครั้งเหรอ นี่ยังไม่นับตอนที่เจอกับ เคน นอร์ตัน อีก ถ้าคุณดูมวยเป็นคุณจะรู้ว่า เคน นอร์ตัน ชนะทั้ง 3 ครั้งที่เจอกัน”

“หากวัดนักมวยทั้งหมดในหน้าประวัติศาสตร์มวย ผมประสบความสำเร็จมากกว่าทุกคน อย่าง ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ เขาเคยเอาชนะแชมป์โลกมากี่คน มันชัดเจนอยู่แล้วผมชนะนักมวยที่เป็นแชมป์ได้มากมาย ซึ่งหลายรายได้รับการบรรจุเข้าหอเกียรติยศ”

นอกจากนี้ อดีตแชมป์โลก 5 รุ่น ยังเผยว่ารู้สึกรำคาญทุกครั้งที่นักวิจารณ์มักนำชื่อของ วันเฮง มีนะโยธิน แชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นมินิมั่มเวต ที่ทำสถิติชนะรวด 54 ไฟต์ มาเปรียบเทียบกับตน

“ผมทำสถิติชนะรวด 50 ครั้ง พวกคุณก็น่าจะรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ตอนนี้มีนักชกจากเอเชียที่ทำสถิติชนะรวด 54 ไฟต์ และพวกเขาต่างพูดกันว่านี่คือนักมวยที่ดีที่สุด”

“พวกคุณช่วยบอกผมหน่อยว่าไอ้สถิติชนะรวด 54 ครั้ง เขาเคยเจอกับคนที่เป็นแชมป์โลกสักคนหรือไม่ เขาเอาชนะแชมป์โลกได้แค่คนเดียวจากนั้นพวกคุณก็ยกย่องว่าเขากำลังจะเป็นนักมวยที่ดีที่สุดในโลก มันน่าตลกสิ้นดี” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Club Shay Shay

“เอสตราด้า” เผยติดเชื้อโควิด-19 แต่อาการดีขึ้นแล้ว

Boxing-280

“เอล กัลโล่” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า กำปั้นชาวเม็กซิโก เจ้าของเข็มขัดแชม์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ของสภามวยโลก (WBC)

ออกมาเปิดเผยเรื่องสุดช็อกว่าตัวเขา และ วิริเดียน่า กายาร์โด้ ภรรยาได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) จากการรายงานของ บ็อกซิ่งซีน เว็บไซต์ดังในวงการกำปั้น

อย่างไรก็ตาม นักชกวัย 30 ปี ได้เผยว่าตอนนี้ถือเป็นโชคดีที่ตัวเขา และแฟนสาวนั้น อาการดีขึ้นมากแล้วแต่ยังต้องถูกกักตัวแยกจากผู้คน รวมทั้งยังอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

พร้อมกันนี้ แชมป์โลกชาวเม็กซิกัน ยังกล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุน และแสดงความเป็นห่วงหลังมีข่าวกระจายออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าเขาฟื้นตัวอย่างเต็มที่แล้ว

ขณะที่ อัลเฟรโด้ กาบาเยโร่ เทรนเนอร์ของเจ้าตัวก็ออกมาให้ความเห็นว่า “เอล กัลโล่” นั้นมีสภาพดีเหมือนเดิม โดยเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ฝึกซ้อมอยู่ที่บ้าน และกำลังรอการยืนยันว่าจะกลับคืนสังเวียนเมื่อไร

สำหรับครั้งสุดท้ายที่ กำปั้นชาวเม็กซิโก ขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์ก็คือเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปี 2019 โดยเป็นการเอาชนะน็อก ดเวย์น บีม่อน ผู้ท้าชิงชาวสหรัฐฯ ไปได้ในยกที่ 9

ซึ่งกับสถานการณ์ล่าสุด เจ้าตัวกำลังรอลุ้นว่าจะได้โอกาสขึ้นฟาดปากล้มแชมป์กับ “ช็อคโกลาติโต้” โรมัน กอนซาเลซ กำปั้นชาวนิการากัว แชมป์สมาคมมวยโลก (WBA) หรือไม่ หลังทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจากันในเรื่องของการเงิน

กำปั้นค้อนปอนด์ “เบอร์ลันก้า” นักชกดาวรุ่งสุดโหด ที่คว่ำคู่ชกยกแรกได้ถึง 13 ไฟต์รวด

Boxing-290

“เอ็ดการ์ เบอร์ลันก้า” กำปั้นเด็กปั้นของค่าย “ท็อปแรงก์” ที่แม้หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อของนักมวยรายนี้ แต่เชื่อเถอะว่าในอนาคตข้างหน้าหลายคนจะต้องจดจำชื่อนี้ได้อย่างแน่นอน

กำปั้นชาวเปอร์โตริโก้วัย 23 ปี รายนี้ชกในพิกัดไม่เกิน 160 ปอนด์ (รุ่นมิดเดิ้ลเวท) ผ่านการขึ้นสังเวียนมาทั้งหมด 13 ไฟต์ เดินสายชกทั้งในเม็กซิโก และหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา ตลอดช่วงระยะเวลากว่า 4 ปี

แต่สิ่งที่ทำให้สื่อหลายสำนักสนใจในตัวนักชกรายนี้ก็คือตลอดการชกทั้ง 13 ครั้ง เจ้าตัวเป็นฝ่ายเอาชนะน็อกได้ทั้งหมด แถมยังเป็นการสร้างสถิติสุดเหลือเชื่อปิดบัญชีคู่ชกในยกแรกทั้งหมดอีกด้วย ทำลายสถิติเดิมของ ไมค์ ไทสัน สุดยอดกำปั้นชาวมะกัน ที่เคยทำสถิติเอาชนะคู่แข่งในยกแรกมากที่สุดด้วยจำนวน 9 ครั้งจากการขึ้นสังเวียน 13 ไฟต์แรกลงได้สำเร็จ

สำหรับ นักชกรายนี้มีพลังกำปั้นที่หนักหน่วงทั้งซ้ายและขวา แต่เกจิมวยหลายรายยังชี้ว่าเจ้าตัวยังมีข้อบกพร่องทางด้านเทคนิค และการป้องกัน ซึ่งกับเส้นทางกำปั้นของเจ้าตัวถือว่าเพิ่งเริ่มต้นขึ้นและยังมีเวลาพัฒนาตัวเองอีกมาก

โดยไฟต์ต่อไป เอ็ดการ์ เบอร์ลันก้า จะขึ้นสังเวียนไฟต์ที่ 14 ในชีวิตพบกับ อีริก มูน นักชกจอมเก๋าวัย 29 ปี เจ้าของสถิติชก 13 ชนะ 11 แพ้ 2  ที่สังเวียน เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ในวันที่ 21 กรกฎาคม นี้ ก็ต้องมาดูกันว่าเจ้าตัวจะเดินหน้าสร้างสถิติเอาชนะน็อกยกแรกได้ต่อไปหรือไม่

“ดิลเลี่ยน ไวท์” เดินหน้าฟ้อง WBC แล้ว

Boxing-286

ดิลเลี่ยน ไวท์ แชมป์เฉพาะกาลรุ่นเฮฟวี่เวธของ WBC ที่ล่าสุดได้ดำเนินการฟ้องร้องสถาบันสายเขียวแล้วเพื่อเรียกร้องให้ทางสถาบันมอบโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกกับ Tyson Fury แก่เขาซักที

โดยทาง Mauricio Sulaiman ประธานของ WBC ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองแล้วนะครับว่าเขาถูก ไวท์ ฟ้องร้องจริงๆ

ไวท์ ครองตำแหน่งผู้ท้าชิงไฟต์บังคับของ WBC มาตั้งแต่เมื่อปี 2018 โดยเมื่อปีก่อน WBC ได้ให้สัญญากับ เขาเอาไว้ด้วยว่าจะให้เขาขึ้นชิงแชมป์โลกภายในเดือนกุมภาปีหน้าอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม จากบทสัมภาษณ์ของ Fury และ Bob Arum โปรโมเตอร์ของ Top Rank พวกเขามีแผนที่จะเดินเรื่องขอร้องทาง WBC ให้เลื่อนไฟต์บังคับกับ ไวท์ ออกไปก่อน เพื่อเปิดทางให้ Fury ล้มแชมป์โลกทุกสถาบันกับ Anthony Joshua อย่างน้อยสองภาคในปีหน้า ซึ่งแน่นอนว่านั่นทำให้ เขา หัวเสียเอามากๆ

ในส่วนของรายละเอียดการฟ้องร้อง Sulaiman บอกว่าเขาไม่สามารถอธิบายอย่างละเอียดได้ เพราะติดข้อบังคับทางกฎหมายอยู่

“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับวันที่ในการขึ้นชิงแชมป์โลกที่แน่ชัด แต่ผมพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้หรอก ทีมกฎหมายของผมเขาห้ามไว้น่ะ” Sulaiman กล่าวกับ Sky Sports

สื่อดังวงการมวย ยกให้ “เดอะ มันนี่” เป็นกำปั้นเบอร์ 1 ของโลกตลอดกาล

Boxing-285

บ็อกซ์เรค (BOXREC.COM) เว็บไซต์ดังในแวดวงหมัดมวย ผลงานของ มร.จอห์น เชฟเฟิร์ด และ มาริน่า ผู้ก่อตั้งที่คอยรวบรวมผลการแข่งขัน รวมถึงสถิติต่างๆ ในวงการกำปั้นทั่วโลก

ล่าสุดได้มีการสรุปอันดับโคตรมวยตลอดกาลที่มีบนโลกใบนี้ออกมา (สถิติรวมถึงนักชกที่แขวนนวมไปแล้ว) โดยใช้หลักการคำนวณจากสถิติการชก แล้วมาให้คะแนน ซึ่งผลปรากฎว่า “เดอะมันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ คือเบอร์หนึ่งของโลก

โดย อดีตกำปั้นชาวสหรัฐฯ ที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 5 รุ่น และเป็นเจ้าของสถิติไร้พ่ายบนโลกใบนี้ ด้วยการขึ้นสังเวียนถึง 50 ไฟต์ตลอดชีวิตบนสังเวียน มาเป็นอันดับ 1 ขณะที่อันดับ 2 แมนนี่ ปาเกียว ยอดกำปั้นชาวฟิลิปปินส์, อันดับที่ 3 คาร์ลอส มอนซอน โคตรมวยอาร์เจนตินา ขณะที่ มูฮัมหมัด อาลี ยอดนักชกชื่อดังหล่นมาอยู่อันดับที่ 4

อย่างไรก็ตามการจัดอันดับในครั้งนี้ก็สร้างความคาใจให้กับแฟนๆ หมัดมวยว่าทำไมถึงไร้ชื่อของยอดมวยดังอย่าง ไมค์ ไทสัน อดีตกำปั้นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน ที่มีข่าวเตรียมหวนกลับมาชกอีกครั้งในวัย 53 ปี รวมถึง อีแวนเดอร์ โฮลิฟิลด์, ร็อคกี้ มาร์เซียโน่ และ โรแบร์โต้ ดูรัน ก็ไม่ติดโผด้วยเช่นกัน

10 อันดับโคตรมวยตลอดกาลจากการจัดอันดับ บ็อกซ์เรค

  1. ฟลอยด์ เมย์เวธเทอร์ จูเนียร์ (สหรัฐฯ) ชนะ 50
  2. แมนนี่ ปาเกียว (ฟิลิปปินส์) ชนะ 62 แพ้ 7 เสมอ 2
  3. คาร์ลอส มอนซอน (อาร์เจนตินา) ชนะ 87 แพ้ 3 เสมอ 9
  4. มูฮัมหมัด อาลี (สหรัฐฯ) ชนะ 56 แพ้ 5
  5. ซูการ์ เรย์ โรบินสัน (สหรัฐฯ) ชนะ 174 แพ้ 19 เสมอ 6
  6. เบอร์นาร์ด ฮอปกิ้นส์ (สหรัฐฯ) ชนะ 55 แพ้ 8 เสมอ 2
  7. โจ หลุยส์ (สหรัฐฯ) ชนะ 66 แพ้ 3
  8. อาร์ชี่ มัวร์ (สหรัฐฯ) ชนะ 186 แพ้ 23 เสมอ 10
  9. ออสการ์ เด ลา โฮย่า (สหรัฐฯ) ชนะ 39 แพ้ 6
  10. ฮูลิโอ เซซ่าร์ ชาเวซ (เม็กซิโก) ชนะ 107 แพ้ 6 เสมอ 2

เคลียร์ให้หมด “เดอะมันนี่” อดีตกำปั้นควักเงินจัดงานศพ 4 แห่งให้ “จอร์จ ฟลอยด์”

Boxing-284

“เดอะมันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กำปั้นไร้พ่ายชาวสหรัฐฯ เสนอตัวออกค่าจัดงานศพให้กับ “จอร์จ ฟลอยด์” ชายผิวสีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุจนเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

โดยอดีตกำปั้นวัย 43 ปี มอบเช็คเงินสดจำนวน 88,500 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,800,000 บาท) เพื่อใช้สำหรับการจัดพิธีศพให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ ทั้งหมด 4 แห่งได้แก่ ฮุสตัน, มินเนโซต้า, ชาร์ล็อตต์ และอีก 1 แห่งซึ่งยังไม่เปิดเผย

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนอาจแสดงออกด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ผมพูดในฐานะตัวแทนของเรา เพราะเราทุกคนคือทีมเดียวกัน เขาจะมีพิธีงานศพ 3 แห่ง หรืออาจจะ 4 แห่งก็ได้ ซึ่งผมจะเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง”

“มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในการให้การสนับสนุนในครั้งนี้ มันก็เหมือนกับที่ชาวเม็กซิกันสนับสนุนชาวเม็กซิกัน, ชาวโดมินิกันที่สนับสนุนชาวโดมินิกัน, ชาวจีนสนับสนุนชาวจีน, เชาวปอร์โตริกันสนับสนุนเปอร์โตริโก้ ซึ่งแน่นอนผมจะให้การช่วยเหลือคนของผมเป็นอันดับแรก” เมย์เวทเธอร์ เปิดใจที่ยิมในลาสเวกัส

ทั้งนี้การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ทำให้เกิดการเรียกร้องความเป็นธรรม โดยเกิดเหตุการประท้วงทั่วสหรัฐอเมริกาในเวลานี้ รวมถึงนานาชาติทั่วโลกที่เริ่มมีการเคลื่อนไหว ไม่เว้นแม้แต่คนมีชื่อเสียงในวงการกีฬาที่ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้