“ก้องนภา” แลกหมัดเดือดกับ “นักชกญี่ปุ่น” ผงาดคว้าแชมป์ K-1 สำเร็จ

Boxing-304

ย้อนไปชมคลิปชัดๆ ของการแข่งขัน K-1 เวิล์ด กรังปรีซ์ 2020 เดิมพันเข็มขัดแชมป์รุ่นไลท์เวท ที่สังเวียน เรียวโกกุ โกคุกิกคัน, เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา

โดยเป็นการเจอกันของ เคนตะ ฮายาชิ นักชกเจ้าถิ่นเจ้าของเข็มขัดแชมป์ K-1 รุ่น 63 กิโลกรัม พบกับ ก้องนภา วีระศักดิ์เล็ก นักชกชาวไทย ดีกรีไม่ธรรมดา แชมป์ K-1 Krush รุ่น 63 กิโลกรัม

เปิดฉากมายกแรก กำปั้นเจ้าถิ่นเดินลุยขู่ทันทีออกหมัดหนักๆ เล่นงานลำตัวต่อเนื่อง ขณะที่ นักชกชาวไทยยังเน้นดูเชิงตั้งการ์ดรัดกุม ดักเตะตัดล่างพร้อมทั้งมีหมัดซ้ายตรงที่ต่อยเล่นเอาแชมป์หน้าหงายไปหลายที

ยกสอง ก้องนภา เปลี่ยนแผนออกมาเดินบู๊ใส่ทันทีเตะตัดล่างบวกกับรัวหมัดแลกแบบไม่เกรงกลัว ด้านนักชกเจ้าถิ่นก็ไม่ยอมเดินบดแลกหมัดสวนชนิดไม่มีใครยอมใคร ท้ายยก ก้องนภา มาดักแทงเข่าเต็มๆ ทำเอาคู่ชกถึงกับหยุด

ยกสาม นักชกชาวไทย เดินสาดแข้งต่อเนื่องทำเอานักชกเจ้าถิ่นอ่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัด ท้ายยกทั้งคู่เปิดฉากแลกหมัดกันอย่างสนุกเรียกเสียงเฮจากแฟนได้ลั่นสนาม

ครบ 3 ยก กรรมการรวมคะแนนให้ก่อนชูมือให้ ก้องนภา วีระศักดิ์เล็ก เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2-0 เสียง กลายเป็นแชมป์ K-1 รุ่น 63 กิโลกรัม ได้อย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงยังเป็นเจ้าของแชมป์เข็มขัดเส้นเล็กอย่าง K-1 Krush รุ่น 63 กิโลกรัม อีกด้วย

เวทีมวยราชดำเนิน ออกแถลงการณ์งดจัดทุกรายการ หวั่นเชื้อไวรัสโควิด-19

Boxing-303

จากกรณีที่มีการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่จังหวัดสมุทรสาคร จนเป็นเหตุให้มีการรายงานว่ามีการแพร่กระจายไปยังหลายจังหวัด

ทำให้ภาครัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เตรียมยกระดับมาตรการคุมเข้มในพื้นที่เสี่ยงหลายจุด

ทำให้ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่สนามมวยเวทีราชดำเนิน ได้มีการเรียกประชุมด่วนกับทีมงานของค่ายมวยจิตรเมืองนนท์ และทีมงานของสนามมวยสยามอ้อมน้อย ก่อนได้ข้อสรุปว่าจะขอยกเลิกจัดมวยทุกรายการตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป

เพื่อความปลอดภัยของคนในวงการมวย รวมถึงภาพลักษณ์ของวงการมวยไทย ทางสนามมวยเวทีราชดำเนิน จึงขอประกาศยกเลิกการจัดมวยทุกรายการจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะกลับมาคลี่คลาย

ส่วนสนามมวยราชดำเนิน จะกลับมาจัดมวยได้อีกเมื่อไหร่นั่น ขอให้แฟนๆ ติดตามความคืบหน้าต่อไป

ไล่ต้อนจนมุม “โจชัว” น็อค “ปูเลฟ” ได้ในยกที่ 9 ป้องแชมป์โลกสมัยแรกไว้ได้ (คลิป)

Boxing-302

การแข่งขันชกมวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวต เดิมพันเข็มขัดแชมป์ 4 สถาบัน (IBO, WBO, WBA และ IBF) ระหว่าง แอนโธนี่ โจชัว แชมป์ชาวอังกฤษ กับ คูบรัต ปูเลฟ กำปั้นชาวบัลแกเรีย ที่เวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563

เปิดฉากยกแรก นักมวยทั้งคู่ยังดูเชิงกันอยู่ไม่เน้นออกอาวุธใส่กันมากนัก แชมป์โลกเน้นออกหมัดแย็บเล่นงานอยู่วงนอก ขณะที่ผู้ท้าชิงพยายามเดินติดเพื่อออกหมัดหนักๆ พยายามเล่นงานใบหน้าสลับลำตัว

เข้าสู่ยก 3 สถานการ์เปลี่ยนเมื่อ แอนโธนี่ โจชัว ไล่ต่อยจนผู้ท้าชิงออกอาการก่อนระดมหมัดใส่ไม่ยั้งส่ง กำปั้นชาวบัลแกเรีย ลงไปกองให้กรรมการนับถึง 8 ก่อนลุกมาสู้ต่อแต่ก็มาโดนอีกนับในช่วงปลายยก

ช่วงยก 4- ยก 8 แอนโธนี่ โจชัว เป็นฝ่ายคุมเกมไว้ได้หมดออกหมัดแย็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง ด้าน คูบรัต ปูเลฟ พยายามกัดฟันเดินสู้แต่สภาพบอบช้ำไปมากทีเดียว

เข้าสู่ยก 9 แชมป์โลกชาวอังกฤษ ปล่อยหมัดเด็ดอัปเปอร์คัตส่งผู้ท้าชิงลงไปกองอีกครั้งให้กรรมการนับถึง 8 แต่ คูบรัต ปูเลฟ ลุกขึ้นมาสู้ได้ต่อก่อนโดนหมัดขวาตรงเข้าปลายคางหงายท้องลงไปให้กรรมการยุติการชกไปในที่สุด

ทำให้ แอนโธนี่ โจชัว ป้องกันแชมป์โลกได้สมัยแรก พร้อมเพิ่มสถิติเป็นชนะ 24 ครั้ง (ชนะน็อก 22 ครั้ง) และแพ้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นตลอดการชกอาชีพ โดยไฟต์ที่แฟนกำปั้นเฝ้ารอก็คือการเผชิญหน้ากับ “ยิปซีคิง” ไทสัน ฟิวรี่ กำปั้นเพื่อนร่วมชาติเจ้าของ แชมป์สภามวยโลก (WBC)

“ฟลอยด์” ประกาศคืนสังเวียน พร้อมขึ้นชกกับ “โลแกน พอล” ยูทูบเบอร์ดัง

Boxing-301

“เดอะมันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อดีตกำปั้นไร้พ่ายชาวสหรัฐฯ ออกมาประกาศเตรียมหวนคืนสังเวียนอีกครั้งในวัย 43 ปี โดยจะขึ้นชกไฟต์พิเศษในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 2021

โดยคู่ชกของเจ้าตัวก็คือ โลแกน พอล นักแสดง และยูทูบเบอร์ชื่อดัง ที่มีผู้ติดตาม 18.6 ล้านคน ซึ่งแน่นอนเกมการชกครั้งนี้วัตถุประสงค์ก็เพื่อการหาเงินเข้ากระเป๋าของทั้งคู่นั่นเอง

สำหรับ อดีตแชมป์โลก 5 รุ่น เจ้าของสถิติชนะรวด 50 ไฟต์ ร้างเวทีไปนาน หลังขึ้นสังเวียนครั้งสุดท้ายพบกับ เทนชิน นาสุกาว่า นักชกชาวญี่ปุ่น เมื่อปลายปี 2018 ซึ่งครั้งนั้นเจ้าตัวโกยเงินไปมากถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 285 ล้านบาท) โดยใช้เวลาเพียงแค่ 136 วินาที

อย่างไรก็ตามกับการชกครั้งนี้ต้องบอกว่าดูท่าจะเป็นการโชว์มากกว่า เพราะตัวของ ยูทูบเบอร์วัย 25 ปี มีประสบการณ์เป็นรองแบบสุดกู่ เคยผ่านสังเวียนกำปั้นมาเพียงแค่ไฟต์เดียวในชีวิต แถมยังแพ้ให้กับ เคเอสไอ ยูทูบเบอร์คนดัง ในปี 2019 อีกด้วย

สำหรับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เจ้าของสถิติชนะรวด 50 ครั้ง ถือเป็นนักกีฬาที่ทำเงินได้มากที่สุดแห่งทศวรรษ 2010 (ในช่วงระหว่างปี 2010-2019)

จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ (Forbes) นิตยสารทางการเงินชื่อดังของสหรัฐอเมริกา โดยโกยรายได้ไปมากถึง 915 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 28,400 ล้านบาท) และแน่นอนกับครั้งนี้ก็เชื่อว่าเจ้าตัวจะโกยได้อีกมากโข

“ดูบอยส์” นักชกดาวรุ่ง คุกเข่าขอยอมแพ้ พร้อมเสียสถิติชนะรวดอย่างสวยงาม

Boxing-300

ดาเนี่ยล “ไดนาไมต์” ดูบอยส์ กำปั้นดาวรุ่งหมัดหนักชาวอังกฤษ เจ้าของแชมป์เข็มขัดเงิน (WBC Silver), แชมป์อังกฤษ และแชมป์ยุโรป ต้องยุติสถิติอันสวยหรูชนะรวดเสียแล้ว หลังไฟต์ล่าสุดตัดสินใจยอมแพ้ให้กับคู่ชก

โดยกำปั้นวัย 23 ปี ขึ้นสังเวียนพบกับ โจ จอยซ์ กำปั้นจอมเก๋าวัย 35 ปี เจ้าของสถิติชนะรวด 11 ไฟต์ ที่สังเวียน ครัช เฮาส์, เวสต์มินสเตอร์, ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

เกมการชกเป็นไปอย่างสนุก ดาเนี่ยล ดูบอยส์ อาศัยความสดเดินบดเล่นงานผู้ท้าชิงหวังเผด็จศึกให้ได้ แต่ โจ จอยซ์ มาเน้นรัดกุมบล็อกแน่นอน มีดักปล่อยหมัดเล่นงานอย่างต่อเนื่องอยู่วงนอก

รูปเกมดำเนินมาจนถึงยกที่ 9 สถานการณ์เปลี่ยนเมื่อ ดาเนี่ยล ดูบอยส์ ได้รับบาดเจ็บหนักที่ตาซ้ายถึงขั้นบวมปิด หลังโดนหมัดแย็บขวาของ โจ จอยซ์ มาตลอดที่ผ่านมา ทำให้ในช่วงพักยกเทรนเนอร์ของเจ้าตัวมีการพูดคุยกัน

เข้าสู่ยกที่ 10 หลังเกมการชกดำเนินมาได้เพียง 30 วินาที กำปั้นดาวรุ่ง ตัดสินใจทรุดลงไปนั่งกลางเวทีไม่ยอมลุกขึ้นมาสู้ต่อ ท่ามกลางความงุนงงของแฟนมวยที่ได้ชมผ่านการถ่ายทอดสด ทำให้ เอียน จอห์น ลูอิส ผู้ตัดสินนับถึง 10 และยุติการชกไปในที่สุด

จากความพ่ายแพ้ในไฟต์นี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตของเจ้าตัว ทำให้เสียสถิติชนะรวดลงที่ 15 ครั้ง และแพ้ 1 ครั้ง นอกจากนี้ในใบคะแนนหลังผ่าน 9 ยก ดาเนี่ยล ดูบอยส์ มีคะแนนนำอยู่ 2-1 เสียง แต่เพื่ออนาคตในวงการมวยทำให้เจ้าตัวต้องตัดสินใจยอมแพ้