“โลมาเชนโก้” คืนสังเวียนโหดไล่ถลุง “นากาตานิ” กำปั้นชาวญี่ปุ่น จนบอบช้ำ

การแข่งขันชกมวยโลก รายการ ท็อป แรงก์ บ็อกซิ่ง คู่เอก พิกัดรุ่นไลท์เวท วาซิล โลมาเชนโก้ ยอดกำปั้นชาวยูเครน อดีตแชมป์โลก พบกับ มาซาโยชิ นากาตานิ นักชกชาวญี่ปุ่น ที่เวอร์จิ้น โฮเทล, ลาส เวกัส, ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ไฟต์นี้ถือเป็นการคืนสังเวียนครั้งแรกของ นักชกชาวยูเครน ในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เสียแชมป์ให้กับ เตโอฟิโม่ โลเปซ กำปั้นดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ ขณะที่ นักชกชาวญี่ปุ่นวัย 32 ปี ถือเป็นการชกในสหรัฐฯ เป็นไฟต์ที่สามหลังเซ็นสัญญาเข้าสังกัดของ ท็อป แรงก์

เริ่มยกแรก ทั้งคู่เปิดฉากดวลหมัดกันทันทีแต่ดันมีจังหวะหัวโขกกันในช่วงคลุกวงในทำให้ วาซิล โลมาเชนโก้ มีแผลแตกที่บริเวณหน้าผาก อย่างไรก็ตามรูปเกมยังเป็น อดีตแชมป์โลกที่ออกหมัดเล่นงานได้จะแจ้งกว่า

ยกสอง – ยกสี่ รูปเกมเป็น โลมาเชนโก้ ที่คุมเกมได้หมดมีหมัดตัวลำตัว กับหมัดขวาตรงเล่นงานต่อเนื่อง ขณะที่ นากาตานิ กลายเป็นมวยหมดทางสู้ต้องอาศัยการเข้ากอดอยู่เกือบทุกครั้งเพื่อหยุดการโจมตี

ยกห้า ยอดกำปั้นชาวยูเครน เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดเดินออกหมัดเล่นงานทั้งใบหน้า และลำตัว แม้ นักชกชาวญี่ปุ่น จะพยายามโผเข้ากอดแต่ก็โดนพลิกเหลี่ยมทิ้งซ้ายเข้าหน้าก่อนตามด้วยขวาลงไปกองให้กรรมการนับ 8

จากนั้น วาซิล โลมาเชนโก้ ยังเดินเกมไล่ยำอยู่ข้างเดียวทำเอาคู่ชกชาวญี่ปุ่นตาบวมปิด จนเข้าสู่ยก 9 กำปั้นชาวยูเครน ต่อยซ้ายเข้าเต็มหน้าทำเอา นากาตานิ ถึงกับออกอาการก่อนตามระดมหมัดใส่เป็นชุด ทำให้กรรมการเห็นท่าไม่ดียุติการชกไปในที่สุด

ทำให้ วาซิล โลมาเชนโก้ ยอดกำปั้นชาวยูเครน เป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอในยกที่ 9 เพิ่มสถิติชนะ 15 ไฟต์ (ชนะน็อก 11 ครั้ง) และแพ้ 2 ครั้ง ซึ่งเจ้าตัวตั้งเป้าทวงแชมป์โลกคืนจาก เตโอฟิโม่ โลเปซ คู่ปรับเก่าในอนาคต

แข็งแกร่งเกินต้านทาน “อิโนอุเอะ” ถลุงลำตัว “ดาสมารินาส” ลงกองยก 3

การแข่งขันชกมวยโลก รายการ ท็อป แรงก์ บ็อกซิ่ง คู่เอก เดิมพันเข็มขัดแชมป์โลก รุ่นแบนตั้มเวท สมาคมมวยโลก (WBA ซูเปอร์) และ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ที่เวอร์จิ้น โฮเทล, ลาส เวกัส, ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา

“มอนสเตอร์” นาโอยะ อิโนอุเอะ นักชกชาวญี่ปุ่นเจ้าของเข็มขัด 2 สถาบัน ขึ้นสังเวียนป้องกันตำแหน่งแชมป์ไฟต์บังคับกับ ไมเคิ่ล ดาสมารินาส ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ รองเบอร์ 1 ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF)

เปิดฉากมายกแรก นาโอยะ อิโนอุเอะ เดินลุยตามสไตล์มีหมัดขวานำแล้วตามด้วยหมัดชุดเล่นงานทั้งบนสลับล่าง

ขณะที่ ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ อาศัยดึงจังหวะไม่เข้าแลกใช้หมัดแย็บคอยก่อกวนอยู่วงนอก

ยกสอง แชมป์โลกชาวญี่ปุ่น เดินติดเร็วขึ้นออกหมัดตัดลำตัวหนักๆ ต่อเนื่อง ก่อนที่กลางยกจะอัดเข้าชายโครงขวาย้ำๆ ทำเอา ดาสมารินาส ต้องทิ้งตัวลงไปให้กรรมการนับถึง 8 ก่อนกัดฟันลุกขึ้นมาสู้ต่อ

ยกสาม อิโนอุเอะ ที่เปิดแผลในยกก่อนเป็นฝ่ายเดินตัดลำตัวต่อเนื่อง ก่อนฮุกซ้ายเข้าท้องส่ง นักชกฟิลิปปินส์ ลงไปให้กรรมการนับอีกครั้ง

แต่ ดาสมารินาส ก็กัดฟันลุกขึ้นมาได้อีกก่อนโดนซ้ายลำตัวหล่นลงไปให้กรรมการยุติการชกในที่สุด

ทำให้ นาโอยะ อิโนอุเอะ เป็นฝ่ายเอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 3 ป้องกันแชมป์รุ่นแบนตั้มเวท สมาคมมวยโลก (WBA ซูเปอร์), สหพันธ์มวยนานาชาติ IBF และ The Ring ไว้ได้อีกสมัย พร้อมเพิ่มสถิติเป็นชนะรวด 21 ไฟต์ (ชนะน็อก 18 ครั้ง)

กรรมการไม่ยอมยุติการชกหลังพี่เลี้ยงโยนผ้าขาวขึ้นบนเวที

โดยคู่นี้เป็นการเดิมพันหาผู้ชนะเข้าไปชิงแชมป์โลก รุ่นไลท์เวลเตอร์เวทของ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) กับ จอช เทย์เลอร์ นักชกชาวสกอตแลนด์เจ้าของเข็มขัดแชมป์ ในช่วงปลายปีนี้

เกิดเรื่องสุดแปลกในวงการกำปั้นโลกรายการ แมตช์รูม บ็อกซิ่ง คู่ระหว่าง ลูอิส ริตสัน นักชกชาวอังกฤษ กับ เจเรเมียส ปอนเซ่ กำปั้นชาวอาร์เจนติน่า เดิมพันหาผู้ชนะเข้าไปชิงแชมป์โลก รุ่นไลท์เวลเตอร์เวทของ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) กับ จอช เทย์เลอร์ ที่สังเวียน อีเกิ้ลส์ คอมมิวนิตี้ อารีน่า, ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา

โดยจังหวะอื้อฉาวเกิดขึ้นในยกที่ 10 ของการชก เมื่อ ลูอิส ริตสัน กำปั้นเจ้าถิ่นที่อยู่ในสภาพสุดบอบช้ำโดนตัดลำตัวทรุดลงไปให้กรรมการนับ 8 ก่อนลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ก็โดนพายุหมัดเล่นงานต่อเนื่องทำให้ทางมุมพี่เลี้ยงตัดสินใจโยนผ้าขอยอมแพ้

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ สตีฟ เกรย์ กรรมการห้ามมวยชาวอังกฤษ กลับไม่ยอมสั่งยุติการชก แต่กลับเดินไปหยิบผ้าขาวโยนทิ้งออกไปนอกเวที แล้วสั่งให้เกมการชกดำเนินต่อไปเหมือนเดิม

ซึ่งแน่นอน เจเรเมียส ปอนเซ่ ยังเดินหน้าไล่ถลุงอย่างเมามันก่อนส่ง ลูอิส ริตสัน หล่นลงไปให้กรรมการนับ 8 อีกครั้ง จากนั้นก็ไล่ยำใหญ่จนท้ายสุด สตีฟ เกรย์ ต้องตัดสินใจยุติการชกด้วยตัวเอง

หลังไฟต์จบลง กรรมการห้ามมวยชาวอังกฤษ ได้เดินไปอธิบายกับทีมงานของ ลูอิส ริตสัน ในห้องแต่งตัวถึงการกระทำดังกล่าวว่า “ผมรู้ว่าหลายคนคงแปลกใจกับการกระทำของผม แต่เนื่องจากหมัดที่โดนเป็นการโดนในส่วนของลำตัว ไม่ได้โดนที่ศีรษะ ทำให้ผมตัดสินใจโยนผ้าออกไปเพราะผมเห็นว่าเขายังสู้ได้”

สำหรับ สตีฟ เกรย์ ผู้ตัดสินชาวอังกฤษ มีสถิติลงทำหน้าที่ตัดสินบนสังเวียนในระดับอาชีพมาแล้วกว่า 1,000 ไฟต์ ในรอบกว่า 20 ปี ถือว่ามีประสบการณ์มากทีเดียว แต่การกระทำของเจ้าตัวในครั้งนี้ถือว่ากลายเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว

“ดูบอยส์” ยังคงหมัดหนักเหมือนเดิมทุบ “ดินู” ซิวแชมป์ WBA อินเตอร์ฯ

“ไดนาไมต์” ดาเนี่ยล ดูบอยส์ กำปั้นดาวรุ่งหมัดหนักชาวอังกฤษ คืนสังเวียนอีกครั้งในรอบกว่า 6 เดือน หลังไฟต์ก่อนตัดสินใจขอยอมแพ้ในการพบกับ โจ จอยซ์ กำปั้นจอมเก๋าวัย 35 ปี เนื่องจากตาซ้ายปิดในยกที่ 10 ถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกในชีวิต

ล่าสุด นักชกวัย 23 ปี กลับขึ้นสังเวียนพบกับ บ็อกดาน ดินู นักชกประสบการณ์สูงวัย 34 ปี ชาวโรมาเนีย โดยมีเข็มขัดแชมป์เฉพาะกาล สมาคมมวยโลก (WBA) รุ่นเฮฟวี่เวท เป็นเดิมพัน ที่เทลฟอร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซนเตอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา

เปิดฉากยกแรก ดาเนี่ยล ดูบอยส์ เป็นฝ่ายเดินบุกทันทีออกหมัดหนึ่งสองหนักๆ เล่นงานใบหน้าต่อเนื่อง ด้าน บ็อกดาน ดินู ที่ช่วงชกยาวกว่าเน้นใช้แย็บซ้ายนำก่อนที่จะฉากหนีอยู่วงนอกเพื่อดูเชิง แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้มากนัก

เข้าสู่ยกสอง เปิดมาเพียงแค่ 20 วินาที ดูบอยส์ เดินปรี่เข้าหาก่อนปล่อยหมัดชุดเล่นงานจน บ็อกดาน ดินู ถอยไปติดเชือก แล้วตามด้วยการทิ้งขวาตรงเข้าปลายคางส่งนักชกโรมาเนีย หงายท้องลงไปนอนให้กรรมการนับถึง 10 ก็ยังไม่ลุกขึ้นมา

จากชัยชนะในครั้งนี้ทำให้ ดาเนี่ยล ดูบอยส์ กลายเป็น แชมป์เฉพาะกาล สมาคมมวยโลก (WBA) รุ่นเฮฟวี่เวท พร้อมเพิ่้มสถิติเป็นชนะ 16 (ชนะน็อก 15 ครั้ง) และแพ้เพียงแค่ไฟต์เดียวตลอดการชก

เปิดค่าตัว “ฟลอยด์” คืนสังเวียนกำปั้น ชกกับ “โลแกน” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง

“เดอะมันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อดีตกำปั้นไร้พ่ายชาวสหรัฐฯ ที่มีโปรแกรมจะหวนคืนเวทีมวยอีกครั้งในวัย 44 ปี ที่สังเวียน ฮาร์ดร็อค อารีน่า, ไมอามี่ ในวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน นี้

โดยจะเป็นการชกไฟต์พิเศษกับ โลแกน พอล ยูทูบเบอร์จอมเกรียนชื่อดัง ในกติกามวยสากลอาชีพ กำหนด 6 ยก ที่เรียกว่ากลายเป็นที่สนใจของแฟนกำปั้นทั่วโลกเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการชกครั้งนี้

ล่าสุด เดอะซัน สื่อเจ้าดังของเกาะอังกฤษ ได้เผยตัวเลขค่าเหนื่อยล่อใจที่ทำให้ อดีตแชมป์โลก 5 รุ่น ตัดสินใจหวนกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งว่า เจ้าตัวจะได้รับเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 155 ล้านบาท) ยังไม่นับรวมส่วนแบ่ง 50% จากยอด PPV ทั้งหมดในรายการนี้

ขณะที่ โลแกน พอล ยูทูบเบอร์วัย 26 ปี คู่ชกของเจ้าตัวจะได้รับอยู่แค่ 2 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6 ล้านบาท) และได้ส่วนแบ่ง 5% จากยอด PPV ทั้งหมดในรายการนี้ ถือว่าน้อยกว่า เจ้าของสถิติชนะรวด 50 ไฟต์ ถึง 25 เท่าเลยทีเดียว

ซึ่งหนสุดท้ายที่ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ขึ้นสังเวียนก็คือการพบกับ เทนชิน นาสุกาว่า นักชกชาวญี่ปุ่น เมื่อปลายปี 2018 ซึ่งครั้งนั้นเจ้าตัวโกยเงินไปมากถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 285 ล้านบาท) โดยใช้เวลาเพียงแค่ 136 วินาทีเท่านั้น

ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดีหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ขึ้นชกอีกครั้ง ผมไม่ได้เป็นนักมวยแล้ว ผมยังรักชีวิตของผม

แต่ถ้าผมเห็นโอกาสที่สามารถสร้างความบันเทิง และสนุกไปกับการสร้างรายได้ที่มากพอ แบบนี้ค่อยมาคุยกัน ถ้าผมจะทำอะไรสักอย่างมันจะต้องได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าแน่นอน” กำปั้นจอมโว เคยกล่าวไว้

สำหรับไฟต์การชกระหว่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กับ โลแกน พอล จะมีขึ้นที่สังเวียน ฮาร์ดร็อค อารีน่า, ไมอามี่ ในวันที่ 6 มิถุนายน นี้ ซึ่งค่า PPV ในการรับชมจะอยู่ที่ 49.99 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,500 บาท) และเชื่อเลยว่าไฟต์นี้จะโกยเงินเข้ากระเป๋าของทั้งคู่ได้มากมายอย่างแน่นอน