ประกาศเลิกชกมวย “แอนโธนี่” นักมวยฝรั่งเศสใจแตกสลาย หลัง “ปานเพชร” เสียชีวิต

ปานเพชร ผดุงชัยมวยไทย ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา หลังนอนหมดสติมานานร่วมสัปดาห์ จากอุบัติเหตุในการแข่งขันมวยไทย ไฟต์เตอร์ เอ็กซ์ ที่สนามมวยกองทัพอากาศ ธูปะเตมีย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา

ล่าสุด แอนโธนี่ ทีเอฟมวยไทย นักชกชาวฝรั่งเศส คู่ชกของกำปั้นผู้ล่วงลับในไฟต์ดังกล่าว ยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และออกมาประกาศว่าจะหันหลังให้กับการชก รวมถึงจะช่วยเหลือครอบครัวของ ปานเพชร จนกว่าทางครอบครัวของนักชกชาวไทยจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตน

“ผมรู้ดีว่าผมไม่สามารถรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ผมคิดไม่ออก ผมช็อกหนักมาก ผมอาจชกเขาเยอะเกินไป บางทีกรรมการน่าจะนับเขาหลายครั้งในไฟต์นั้น ด้วยอายุ 25 ปี แต่เขาชกไป 80 ไฟต์ บางทีเขาอาจชกมวยบ่อยเกินไป แต่สุดท้ายการที่เขามาสู้กับผม 5 ยก มันเป็นการชกครั้งสุดท้ายของเขา”

“ผมรู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบบางอย่าง ไม่มีใครสามารถเอาเรื่องนี้ออกจากหัวของผมได้ แม้ว่าข้อความของแฟนๆ หรือใครจะโทรหาผมจะทำให้ผมใจเย็นลงได้ในตอนนี้ แต่ผมเสียใจอย่างสุดซึ้ง มันเป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ มันเป็นเรื่องของโชคชะตา และผมจะไม่คัดค้านมัน ผมหวังว่าเขาจะจากไปอย่างสงบ”

“ผมให้คำมั่นสัญญากับแม่ของเขา, ภรรยาของเขา และลูกสาวของพวกเขา ผมจะช่วยเหลือทางการเงินพวกเขา จนกว่าพวกเขาจะบอกว่าไม่ต้องการมันอีกต่อไป”

“ในส่วนของตัวผม ผมใช้เวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว การต่อสู้ครั้งที่ 28 จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของผม ผมจะไม่กลับมาชกอีก ไม่ใช่เพราะผมไม่แข็งแรง แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะติดตัวผมไปตลอดชีวิต”

“ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยผมเริ่มเดินทางสายกำปั้น และขอโทษด้วยเพราะผมรู้ว่ามีบางคนที่เสียสละบางอย่างเพื่อหวังว่าผมจะสามารถก้าวไปอยู่บนจุดสูงสุดของวงการ” นักชกชาวฝรั่งเศส เปิดใจผ่านโลกออนไลน์

“วารัตส์” เปิดใจหลังพ่ายให้กับ ยอดมวยไทย อย่าง “บัวขาว” ในศึก World Fight ที่กัมพูชา

ศึก World Fight Tournament ระหว่าง “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย ที่ขึ้นชกกับ ดมิทรี วารัตส์ นักชกชาวเบลารุส ที่สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช, กัมพูชา เมื่อวันพุธที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

โดยผลการแข่งขันอย่างที่รู้กันไปก่อนหน้านี้ว่า ครบ 3 ยก กรรมการรวมคะแนนพร้อมชูมือให้ นักชกชาวไทยวัย 40 ปี เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้ และถือเป็นการหวนคืนสังเวียนอีกครั้งในรอบ 3 ปี หลังจากที่ติดปัญหาในเรื่องของการระบาดโควิด-19

อย่างไรก็ตามล่าสุด ดมิทรี วารัตส์ คู่ชกวัย 33 ปี ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงไฟต์นี้ว่า ไม่ค่อยพอใจกับสภาพพื้นเวทีกลางแจ้งที่ลื่นเนื่องจากฝนตกลงมา รวมถึงการพักชกระหว่างยกที่กินเวลายาวนานถึง 3 นาที เลยทีเดียว

ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์คลิป และข้อความว่า “ไปดูความยุ่งเหยิงกัน ขอย้ำ! ผมไม่ได้หมายถึงผลการตัดสิน แต่ขอพูดถึงสภาพอากาศ และการพักระหว่างยกที่ยาวนานถึง 3 นาที ถ้าเกมการชกมียกที่ 4 ผมก็พร้อมที่สู้ต่อเหมือนกัน ขอบคุณเพื่อนๆ ครอบครัว และแฟนๆ ที่สนับสนุนผมมาตลอด” นักชกแชมป์โลก (I.F.M.A) เปิดใจ

สำหรับเกมการชกในไฟต์ดังกล่าวใช้กติกาคุนขแมร์ (คล้ายกติกา มวยไทย ออกอาวุธได้หมด หมัด เท้า เข่า และ ศอก) มีทั้งแบบชก 3 ยก และ 5 ยก โดยใน 1 ยก จะแข่งขันกัน 3 นาที พักยกละ 1-2 นาที แล้วแต่ทางฝ่ายจัดจะกำหนด

แต่กับเกมการชกครั้งนี้ที่ช่วงพักยกนานถึง 3-4 นาที น่าจะเป็นเพราะเรื่องของการโฆษณาระหว่างเบรกที่เข้ามาในรายการมากมายเหลือเกิน หลังจากที่ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย เดินทางไปชกถึงกัมพูชา และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนๆ

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ถอดสิทธิ์ IBA ไม่ให้จัดมวยโอลิมปิก 2024

ประเด็นที่ สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ ไอบา (IBA) ถูกเพิกถอนสิทธิ์จัดการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากปัญหาภายในองค์กรด้านความเป็นธรรมเรื่องการตัดสินและคอรัปชั่น ส่งผลให้ ไอบา ได้ดำเนินการปฏิรูปองค์กรอย่างหนัก เพื่อกลับมาเป็นผู้จัดการแข่งขันโอลิมปิก 2024 อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ไอบา พยายามนั้นยังไม่เป็นผล เมื่อ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ได้ตัดสินใจเพิกถอนสิทธิ์ของ ไอบา ในการเป็นผู้จัดการแข่งขันมวยสากลในโอลิมปิก 2024 เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการกำกับดูแลภายในองค์กร นี่จึงนับเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลจะเป็นผู้จัดการแข่งขันมวยสากลเอง โดยไม่มีสหพันธ์กีฬานานาชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง

คิต แมคคอนเนล ผู้อำนวยการด้านการกีฬาของไอโอซี ระบุว่า ปัญหาภายในองค์กรยังคงมีปัญหา หลังจากที่การเลือกตั้งประธานไอบาครั้งใหม่ ระหว่าง อูมาร์ เครมเลฟ ชาวรัสเซีย กับ บอริส ฟาน เดอร์ วอร์สท์ ชาวเนเธอร์แลนด์ ที่มีการคัดค้านการสมัครเป็นผู้ท้าชิงจากคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสม จน ฟาน เดอร์ วอร์สท์ ถึงขั้นเดินเรื่องถึงศาลกีฬาโลก หรือ CAS ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งให้เขาสามารถลงท้าชิงตำแหน่งได้ ซึ่งนี่ถือเป็นจุดแตกหักที่ทำให้ไอโอซีเล็งเห็นถึงความไม่โปร่งใสที่ยังไม่สามารถเเก้ปัญหาได้

“การตัดสินใจครั้งนี้เน้นที่ตัวนักกีฬาเองเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการแข่งขันโอลิมปิก ไอโอซีจึงต้องเข้ามากำกับดูแลเอง และจะทำทุกอย่างเพื่อทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการแข่งขัน”

ขณะที่รูปแบบการคัดเลือกและการแข่งขันนั้นยังไม่มีการสรุปในประเด็นนี้ แต่การประกาศก่อนหน้านี้ มวยสากลโอลิมปิก 2024 จะชิงชัย 14 เหรียญทอง แบ่งเป็น ชาย 7 เหรียญทอง และหญิง 7 เหรียญทอง ส่วนมวยสากลโอลิมปิก 2028 ที่มีโอกาสถูกถอดออกจากการแข่งขัน ยังไม่มีการหารือเพิ่มเติม

ฟากของ ไอบา หลังจากทราบมติจากไอโอซี ก็ได้ยืนยันว่า จะจัดการเลือกตั้งประธานคนใหม่ในช่วงระหว่างวันที่ 24 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม เพื่อหวังให้ไอโอซีเปลี่ยนใจอีกครั้ง

“ศรีสะเกษ” มั่นใจมาก ในแมตช์ที่ต้องดวลกำปั้น กับ “เจสซี่” หวังกระชากแชมป์ WBC

“เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น กำปั้นขวัญใจชาวไทย ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนเดินทางต่อไปยัง สหรัฐอเมริกา เพื่อเตรียมเก็บตัวทำศึกชิงแชมป์โลกกับ เจสซี่ โรดริเกวซ กำปั้นดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนนี้

โดย กำปั้นวัย 35 ปี ได้ออกเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับ “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการทีม, “โค้ชป๊อป” โชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ และทีมงาน เมื่อช่วงดึกวันอังคารที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ อดีตแชมป์โลกชาวไทย ได้เปิดใจถึงการชกไฟต์นี้ว่า “แม้หลายคนจะมองว่าผมอายุมากถึง 35 ปีแล้ว แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่ามันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข ทุกอย่างมันอยู่ที่การเตรียมตัว และฝึกซ้อม ซึ่งครั้งนี้ผมมีการเตรียมตัวที่ดีมากๆ”

“การเจอกับ โรดริเกวซ ที่เป็นมวยถนัดซ้าย ผมก็ได้มีการซ้อมกับมวยซ้ายเตรียมเอาไว้แล้ว ได้ลงนวมกับ เพชร ซีพีเอฟ ก็เชื่อว่าครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการรับมือกับมวยแบบนี้”

“ผมก็อยากฝากถึง โรดริเกวซ ว่าผมจะเป็นฝ่ายเอาชนะให้ได้ และถ้าเป็นไปได้ก็ตั้งเป้าจะชนะน็อกเลยไม่ต้องไปตัดสินกันที่คะแนน ส่วนตัวมั่นใจว่าจะนำเข็มขัดแชมป์โลกกลับมาเป็นของขวัญให้กับแฟนๆ ชาวไทย” นักชกขวัญใจชาวไทย เปิดใจก่อนบินออกล่าแชมป์

สำหรับ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น มีกำหนดจะชิงแชมป์โลกกับ เจสซี่ โรดริเกวซ แชมป์โลกซูเปอร์ฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) ที่สังเวียน ทีช พอร์ต อารีน่า, รัฐเท็กซัส, สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2565 นี้

ชมคลิป “เดวิส” ปล่อยหมัดเด็ด เอาชนะน็อค “โรเมโร่” ได้ ในยกที่ 6

เดินหน้าเพิ่มสถิติชนะรวดได้อย่างสวยหรูสำหรับ “แทงค์” เกอร์วอนต้า เดวิส กำปั้นจอมแสบชาวมะกัน ที่ล่าสุดขึ้นสังเวียนพบกับ โรลันโด้ โรเมโร่ ที่สังเวียน บาร์เคลย์ส เซนเตอร์, นิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

โดยเกมการชกในช่วงยก 1-2 เป็นทางด้าน โรลันโด้ โรเมโร่ ผู้ท้าชิงชาวสหรัฐฯ ที่เป็นฝ่ายทำได้เหนือกว่าด้วยการเดินออกหมัดแย็บขวาเล่นงานต่อเนื่อง ขณะที่ แชมป์ทำได้เพียงแค่ฉากหลบ และหาจังหวะตอบโต้

เกมเริ่มดุเดือกมากขึ้น เกอร์วอนต้า เดวิส เริ่มเปิดฉากออกอาวุธแลกหมัดแบบไม่ยอมกัน ขณะที่ โรเมโร่ ก็หันมาออกหมัดตัดลำตัวเล่นงานคืน เรียกเสียงเฮจากแฟนๆ ในเวทีได้ดังสนั่น

อย่างไรก็ตามเกมการชกมาจบลงในยกที่ 6 เมื่อ แชมป์โลกชาวมะกัน ดึงจังหวะฉากหลบก่อนปล่อยหมัดซ้ายตรงสวนเข้าปลายคางส่ง โรเมโร่ หงายท้องตึงลงไปให้กรรมการนับถึง 8 แต่เมื่อลุกขึ้นมายืนได้ปรากฎว่าไม่สามารถควบคุมร่างกายทำตามคำสั่งของผู้ตัดสินได้

ทำให้กรรมการตัดสินใจยุติการชกไปในยกที่ 6 ทำให้ เกอร์วอนต้า เดวิส นักชกวัย 27 ปี สร้างสถิติชนะรวด 27 ไฟต์ (ชนะน็อก 25 ครั้ง) ป้องกันตำแหน่งแชมป์ไลท์เวต สมาคมมวยโลก (WBA) ไว้ได้เป็นครั้งที่ 2 และถือเป็นนักมวยในสังกัดของ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ที่น่าจับตามอง

มาดูสภาพปัจจุบัน ของ “นาซีม ฮาเหม็ด” อดีตกำปั้นมาดกวน ที่มีลีลาสุดพริ้ว

กลายเป็นภาพที่ทำให้แฟนมวยถึงกับอึ้งกับสภาพของ ปรินซ์ นาซีม ฮาเหม็ด อดีตกำปั้นชาวอังกฤษจอมยียวน ดีกรีแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวต 3 สถาบัน (WBO, IBF และ WBC) ในวัย 48 ปี ที่ปล่อยตัวจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

โดยล่าสุดสื่อกีฬาของเกาะอังกฤษหลายสำนัก ได้จับภาพเจ้าตัวขณะออกมาเดินเล่นบริเวณคฤหาสน์หรูที่เจ้าตัวเช่าอยู่ในราคา 1.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 60 ล้านบาท) ติดพระราชวังวินด์เซอร์ ที่เป็นพระราชฐานหลักของราชวงศ์อังกฤษ

งานนี้ทำเอาแฟนกำปั้นหลายรายถึงกับจำเจ้าตัวไม่ได้เพราะด้วยขนาดร่างกายที่ใหญ่ขึ้นมากจากแต่ก่อนแถมน่าจะมีน้ำหนักตัวทะลุเกิน 100 กิโลกรัม ทั้งที่สมัยยังชกมวยเจ้าตัวอยู่ในพิกัดเพียงแค่ 58 กิโลกรัม แถมสไตล์การชกต้องบอกว่าเป็นเจ้าความเร็วคนหนึ่งที่ออกหมัดโจมตีคู่ชกได้อย่างว่องไว

สำหรับ ปรินซ์ นาซีม ฮาเหม็ด ถือเป็นยอดมวยที่สร้างความเอนเตอร์เทนท์ในวงการกำปั้น ฝากผลงานไว้ที่ ชก 37 ครั้ง ชนะ 36 (ชนะน็อก 31) และแพ้เพียงแค่ครั้งเดียวต่อ มาร์โก อันโตนิโอ บาร์เรร่า กำปั้นชาวเม็กซิกัน ก่อนแขวนนวมในปี 2002

ด้วยจุดขายในเรื่องของความยียวน ทำให้มีทั้งกองเชียร์ และกองแช่งติดตามชมการชกของเจ้าตัวทั่วโลก จนเจ้าตัวโกยเงินในการค้ากำปั้นไปได้มากถึง 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) ถือเป็นนักมวยที่ทำเงินมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศในปี 2003 เป็นรองเพียง เลนน็อกซ์ ลูอิส แชมป์โลกรุ่นยักษ์เท่านั้น

อายุเป็นเพียงตัวเลข เมื่อ “ไทสัน” ติดต่อขอขึ้นชกกับ “เจค พอล” ยูทูบเบอร์สายมวย

ภายหลังจากเพิ่งผ่านพ้นกรณีทำร้ายร่างกายแฟนคลับบนเครื่องบินมาไม่นาน ล่าสุด ไมค์ ไทสัน ตำนานแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวทก็ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมกับประกาศที่ทำให้แฟนๆตื่นเต้นอีกครั้ง

โดยอดีตแชมป์โลกวัย 55 ปี เผยในรายการพอดแคสต์ “Club Random” ของ บิล มาเฮอร์ พิธีกรชาวอเมริกันเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมานี้ว่า เขาประสงค์ที่จะหวนคืนสังเวียนอีกหนเพื่อขึ้นชกกับ เจค พอล ยูทูบเบอร์สายมวยวัย 25 ปี ที่กำลังโด่งดังหลังผันตัวมาเป็นนักมวยอาชีพเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่ง ไทสัน ได้กล่าวกับ มาเฮอร์ เอาไว้ว่า

“เจค พอล ต้องการจะสู้กับคุณหรือเปล่า?” มาเฮอร์ ถาม

“ใช่ ผมจะโทรหาเขาในวันศุกร์ (13 พ.ค.) และเราจะคุยกันอย่างแน่นอน เขา (เจค พอล) อาจได้กำไรมากกว่าเป็นแชมป์โลกเสียอีก เขาจะพานักพนันทั้งหลายแห่มาลงทุนระหว่างผมกับเขา แต่ฟังนะ รู้ไหมว่าผมกังวลเรื่องอะไร? ผมกังวลว่าเขาจะมีปัญหาก่อนการต่อสู้จะเกิดขึ้น มาชกกันให้ได้นะ เจคกี้” ไทสัน ตอบกลับ

ทั้งนี้ ไทสัน ยังชื่นชม เจค พอล เป็นการทิ้งท้ายว่า “ผมไม่เคยแม้แต่จะมองเขา แต่เขาเป็นนักสู้ แต่ผู้คนไม่อยากยกให้เขาเป็นนักสู้ เพราะเขาหน้าตาดี ผิวขาว ตาสีฟ้า และผมสีบลอนด์”

“แต่จริงๆแล้ว เขาสู้ได้ นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ กิริยาเขามันชวนให้คนทั้งโลกอยากซัดหน้าเขา ผมบอกเลยว่าเจ้าหมอนี่มันขายสรรพคุณตัวเองเก่ง และเขาเป็นโปรโมเตอร์มวยที่ยอดเยี่ยมแบบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ”

สำหรับ เจค พอล ยูทูบเบอร์สายมวย หันมาชกมวยอาชีพจริงจังเมื่อปี 2020 โดยมีสถิตการชก 5 ไฟต์ชนะรวดแบ่งเป็นชนะน็อค 4 ไฟต์ อย่างไรก็ดี คู่ชกของเขามักเป็นยูทูบเบอร์ด้วยกันเองหรือนักกีฬาที่อายุมากแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวเผยว่าจะกลับมาขึ้นชกไฟต์ต่อไปวันที่ 13 สิงหาคมนี้โดยยังไม่เปิดเผยคู่ชก

ส่วนทาง ไทสัน ขึ้นชกครั้งล่าสุดในงานมวยโชว์ตัวเมื่อปี 2020 พบกับ รอย โจนส์ จูเนียร์ ซึ่งจบลงที่ผลเสมอกัน

ทวงแชมป์โลก “ศรีสะเกษ” ได้สิทธิ์ท้าชิง “เจสซี่” พร้อมกำหนดวันชกเรียบร้อย

ความเคลื่อนไหวของ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น กำปั้นขวัญใจชาวไทย ที่แม้อันดับโลกหล่นจากอันดับ 1 มาอยู่ที่ 2 ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามล่าสุด สภามวยโลก (WBC) และ เอ็ดดี้ เฮิร์น โปรโมเตอร์ใหญ่แห่งแมตช์รูม บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น มีความเห็นตรงกันที่จะจัดศึกให้กับ กำปั้นชาวไทยวัย 35 ปี ได้ขึ้นสังเวียนชิงแชมป์โลกคืนอีกครั้ง

โดยจะเป็นคู่เอกของรายการเจอกับ “แบม” เจสซี่ โรดริเกวซ กำปั้นดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ แชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) ที่เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน คาร์ลอส คูเอดราส ไปได้แบบเอกฉันท์ หลังได้รับโอกาสให้เป็นมวยแทนในไฟต์ก่อน

ซึ่งหนนั้น “เจ้าแหลม” เกิดมีปัญหาในเรื่องของสภาพร่างกายทำให้ต้องถอนตัวจากการชก ซึ่งแพทย์เผยว่าเป็นอาการของไตอักเสบ ที่เกิดจากภาวะขาดนํ้า ทำให้ไตต้องทำงานหนักจนเกิดการอักเสบ และไม่สามารถขึ้นชกได้

สำหรับ แชมป์โลกดาวรุ่งวัย 22 ปี เจ้าของสถิติชนะรวด 15 ไฟต์ (ชนะน็อก 10 ครั้ง) จะขึ้นป้องกันตำแหน่งกับ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ที่สังเวียน ทีช พอร์ต อารีน่า, รัฐเท็กซัส, สหรัฐอเมริกา ในวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน นี้ (ตรงกับบ้านเราเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน)

ปรี๊ดแตก “ไมค์ ไทสัน” ฟิวส์ขาดกระหน่ำรัวหมัดใส่หนุ่มเกรียนบนเครื่องบิน

ข่าวฉาวล่าสุดของวงการมวยโลก เมื่อ ไมค์ ไทสัน ตำนานกำปั้นชาวอเมริกัน มีเรื่องกับหนุ่มเกรียนจอมกวนใจ โดยงานนี้เกิดขึ้นบนเครื่องบินท่ามกลางสายตาผู้โดยสารหลายราย

TMZ Sports สื่อกอสซิปกีฬาดัง ได้เผยคลิป อดีตนักมวยแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวต 3 สถาบัน (WBA, WBC และ IBF) ขณะกำลังโดยสารอยู่บนเครื่องบิน แต่มีหนุ่มจอมกวนมายั่วโมโหอยู่พักใหญ่ ทำให้สุดท้ายเจ้าตัวทนไม่ไหว และส่งผลให้หนุ่มซ่าได้แผลบนใบหน้าเป็นของฝากกลางเวหา

โดยที่มาของเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินลำนี้กำลังเดินทางจากสนามบินซาน ฟรานซิสโก อินเตอร์เนชันแนล แอร์พอร์ต ไปยังฟลอริดา เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดย ไทสัน นั่งอยู่เบาะหน้า ส่วนหนุ่มคู่กรณีนั่งอยู่เบาะหลังแถวถัดไป

มีการอธิบายจากผู้โดยสารที่อยู่ในเหตการณ์ว่า หนุ่มเกรียนคนดังกล่าว “ดี๊ด๊าเกินเหตุ” ที่ได้เจอ “มฤตยูดำ” อย่างใกล้ชิด และพยายามไปพูดนั่นพูดนี่ที่ข้างหูของ ไทสัน ไม่หยุด แม้ตัวของ ไทสัน จะพยายามห้ามปรามและสงบสติอารมณ์ตัวเองแล้ว แต่เมื่อถูกยั่วยุมากเข้าก็ทนไม่ไหวจึงจัดการสั่งสอนด้วยกำปั้น

ด้านตัวแทนของอดีตแชมป์โลกวัย 55 ปี ชี้แจงด้วยว่าผู้โดยสารคนนั้นพยายามรบกวน ไทสัน ขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยพฤติกรรมก้าวร้าว แถมยังปาขวดน้ำใส่ “โชคไม่ดีเลยที่คุณไทสันเจออุบัติเหตุขณะนั่งเครื่องบิน เพราะมีผู้โดยสารก้าวร้าวลุกมาก่อกวนเขา และปาขวดน้ำใส่อีก”

ด้านของ ไทสัน เมื่อจัดการคู่กรณีจนสงบนิ่งไปแล้ว ก็เก็บกระเป๋าออกจากเครื่องทันทีหลังเครื่องแลนดิ้งถึงพื้นสนามบิน ส่วนชายคนดังกล่าวที่หลายคนเห็นว่ามีอาการเมาสุรา ต้องเข้าโรงพยาบาลและได้แจ้งตำรวจเพื่อให้จัดการกับอดีตนักมวยแชมป์รุ่นยักษ์

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำซาน ฟรานซิสโก ได้พยายามสอบปากคำชายคู่กรณี แต่กลับถูกปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน

“สเปนซ์” ไล่อัด “อูกัส” จนตาปิด ในยกที่ 10 พร้อมคว้าเข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่ 3 ไปครอง

เอร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ กำปั้นชาวสหรัฐฯ เดินหน้าล่าเข็มขัดแชมป์โลก รุ่นเวลเตอร์เวต 3 สถาบัน มาครองได้สำเร็จ หลังเป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอ ยอร์เดนิส อูกัส กำปั้นชาวคิวบา ที่สังเวียน เอที แอนด์ ที, รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา

โดยไฟต์นี้ นักชกวัย 32 ปี เจ้าของแชมป์โลก 2 สถาบัน (WBC และ IBF) ทำศึกล้มแชมป์กับ ยอร์เดนิส อูกัส กำปั้นชาวคิวบา แชมป์โลก ซูเปอร์ สมาคมมวยโลก (WBA) ที่กระชากแชมป์ได้จากการเอาชนะคะแนน “เดอะ แพ็คแมน” แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์

รูปเกมในช่วงแรกเป็นทางด้าน เอร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ ที่เดินลุยออกหมัดหนักๆ เล่นงานอย่างจะแจ้ง ขณะที่ แชมป์โลกชาวคิวบา เน้นออกหมัดแย็บก่อกวน และโยกหลบไม่เป็นเป้านิ่งปล่อยหมัดหนึ่งสองสวนเป็นระยะ

อย่างไรก็ตามหลังเข้าสู่ยกที่ 10 ยอร์เดนิส อูกัส ก็โดนกรรมการเรียกดูอาการหลังจากสภาพใบหน้าบอบช้ำเนื่องจากโดนหมัดหนักๆ จนตาขวาปิดไม่สามารถมองเห็นได้ถนัด จนสุดท้ายแพทย์สนามต้องสั่งยุติการชกเนื่องจากอาจเป็นอันตรายหากยังฝืนชกต่อไป

ทำให้ เอร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ เป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอ ไปได้ในยกที่ 10 พร้อมเพิ่มสถิติชนะรวด 28 ไฟต์ (ชนะน็อก 22 ครั้ง) รวบแชมป์โลก 3 เส้น (WBC, IBF และ WBA) มาครองได้สำเร็จ โดยเป้าหมายต่อไปอยากเจอกับ เทอเรนซ์ ครอว์ฟอร์ด แชมป์องค์กรมวยโลก (WBO)

รวบรวมข่าวสาร วงการมวยสากล จากทั่วทุกมุมโลก !!