Tag Archives: แชมป์โลก

ประธาน “WBC” ได้ออกมาชี้ขาดแบบนี้หลัง “เจสซี่” ได้สละแชมป์โลก 115 ปอนด์

จากกรณีที่ “แบม” เจสซี่ โรดริเกวซ กำปั้นดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ เจ้าของแชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) ได้ตัดสินใจสละเข็มขัดแชมป์รุ่น 115 ปอนด์ เพื่อกลับไปมุ่งมั่นกับน้ำหนักเดิม 112 ปอนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การสละเข็มขัดแชมป์โลกในครั้งนี้ของ นักชกดาวรุ่งวัย 22 ปี จะทำให้ตำแหน่งแชมป์โลก รุ่น 115 ปอนด์ ของ WBC ว่างลง แถมปัจจุบัน “เอล กัลโล่” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า ก็ถูกยกให้เป็นแชมป์แฟรนไชส์ของสถาบันเรียบร้อย

งานนี้ทำให้แฟนกำปั้นโดยเฉพาะชาวไทยที่หวังว่า สภามวยโลก (WBC) จะประกาศให้มีการชิงแชมป์ว่างในรุ่นนี้ เนื่องจาก “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกชาวไทย ก็มีอันดับในรุ่นนี้อยู่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตามล่าสุด มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานใหญ่ สภามวยโลก (WBC) ได้ออกมาสยบข่าวลือ และเรื่องราวทั้งหมด โดยตัดสินใจชี้ให้เกมการชกรีแมตช์ระหว่าง ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า กับ “ช็อคโกลาติโต้” โรมัน กอนซาเลซ ยอดกำปั้นชาวนิการากัว ในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ เป็นการชิงแชมป์ว่างเส้นนี้ด้วยเลย

ซึ่งจะทำให้เกมการชกไฟต์ดังกล่าวจะกลายเป็นการชกชิงแชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 2 สถาบัน (ทั้ง WBC, WBC แฟรนไชส์ และ WBA ซูเปอร์) เรียกได้ว่าเพิ่มดีกรีความเดือดมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

ขณะที่ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น นักชกชาวไทย ดูท่าจะต้องทำอันดับขึ้นมาใหม่เนื่องจากสถานะในตอนนี้หล่นไปอยู่ถึงอันดับ 6 ของ รุ่น 115 ปอนด์ สภามวยโลก (WBC) หลังจากที่แพ้ทีเคโอให้กับ เจสซี่ โรดริเกวซ เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา

“ตะวันฉาย” เฉือนชนะคะแนน “เพชรมรกต” ชิงเข็มขัดแชมป์โลก “ONE มวยไทย” ไปครอง

ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทย ยอดมวยวัย 23 ปี ผู้ท้าชิงอันดับ 1 กลายเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต คนใหม่ หลังครบ 5 ยกเฉือนชนะคะแนน เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี แชมป์โลก ไปอย่างสนุก

คู่เอกของรายการ “เพชรมรกต” ขึ้นป้องเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต เป็นครั้งที่ 4 กับผู้ท้าชิงเบอร์หนึ่งของแรงกิง “ตะวันฉาย”

ภาพรวม 5 ยกทั้งคู่แลกอาวุธใส่กันมันหยด แบบไม่มีใครยอมใคร ผลัดกันรุกรับทั้งวงนอกและวงใน เล่นเอาคนดูลุ้นกันแบบหายใจไม่ทั่วท้อง

แต่บทสรุปกรรมการเห็นพ้องชูมือให้ “ตะวันฉาย” เป็นฝ่ายชนะคะแนนเอกฉันท์ กระชากเข็มขัดมาได้อย่างที่มุ่งมั่นตั้งใจ

“ศรีสะเกษ” มั่นใจมาก ในแมตช์ที่ต้องดวลกำปั้น กับ “เจสซี่” หวังกระชากแชมป์ WBC

“เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น กำปั้นขวัญใจชาวไทย ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนเดินทางต่อไปยัง สหรัฐอเมริกา เพื่อเตรียมเก็บตัวทำศึกชิงแชมป์โลกกับ เจสซี่ โรดริเกวซ กำปั้นดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนนี้

โดย กำปั้นวัย 35 ปี ได้ออกเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับ “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการทีม, “โค้ชป๊อป” โชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ และทีมงาน เมื่อช่วงดึกวันอังคารที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ อดีตแชมป์โลกชาวไทย ได้เปิดใจถึงการชกไฟต์นี้ว่า “แม้หลายคนจะมองว่าผมอายุมากถึง 35 ปีแล้ว แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่ามันก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข ทุกอย่างมันอยู่ที่การเตรียมตัว และฝึกซ้อม ซึ่งครั้งนี้ผมมีการเตรียมตัวที่ดีมากๆ”

“การเจอกับ โรดริเกวซ ที่เป็นมวยถนัดซ้าย ผมก็ได้มีการซ้อมกับมวยซ้ายเตรียมเอาไว้แล้ว ได้ลงนวมกับ เพชร ซีพีเอฟ ก็เชื่อว่าครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการรับมือกับมวยแบบนี้”

“ผมก็อยากฝากถึง โรดริเกวซ ว่าผมจะเป็นฝ่ายเอาชนะให้ได้ และถ้าเป็นไปได้ก็ตั้งเป้าจะชนะน็อกเลยไม่ต้องไปตัดสินกันที่คะแนน ส่วนตัวมั่นใจว่าจะนำเข็มขัดแชมป์โลกกลับมาเป็นของขวัญให้กับแฟนๆ ชาวไทย” นักชกขวัญใจชาวไทย เปิดใจก่อนบินออกล่าแชมป์

สำหรับ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น มีกำหนดจะชิงแชมป์โลกกับ เจสซี่ โรดริเกวซ แชมป์โลกซูเปอร์ฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) ที่สังเวียน ทีช พอร์ต อารีน่า, รัฐเท็กซัส, สหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2565 นี้

“สเปนซ์” ไล่อัด “อูกัส” จนตาปิด ในยกที่ 10 พร้อมคว้าเข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่ 3 ไปครอง

เอร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ กำปั้นชาวสหรัฐฯ เดินหน้าล่าเข็มขัดแชมป์โลก รุ่นเวลเตอร์เวต 3 สถาบัน มาครองได้สำเร็จ หลังเป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอ ยอร์เดนิส อูกัส กำปั้นชาวคิวบา ที่สังเวียน เอที แอนด์ ที, รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา

โดยไฟต์นี้ นักชกวัย 32 ปี เจ้าของแชมป์โลก 2 สถาบัน (WBC และ IBF) ทำศึกล้มแชมป์กับ ยอร์เดนิส อูกัส กำปั้นชาวคิวบา แชมป์โลก ซูเปอร์ สมาคมมวยโลก (WBA) ที่กระชากแชมป์ได้จากการเอาชนะคะแนน “เดอะ แพ็คแมน” แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์

รูปเกมในช่วงแรกเป็นทางด้าน เอร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ ที่เดินลุยออกหมัดหนักๆ เล่นงานอย่างจะแจ้ง ขณะที่ แชมป์โลกชาวคิวบา เน้นออกหมัดแย็บก่อกวน และโยกหลบไม่เป็นเป้านิ่งปล่อยหมัดหนึ่งสองสวนเป็นระยะ

อย่างไรก็ตามหลังเข้าสู่ยกที่ 10 ยอร์เดนิส อูกัส ก็โดนกรรมการเรียกดูอาการหลังจากสภาพใบหน้าบอบช้ำเนื่องจากโดนหมัดหนักๆ จนตาขวาปิดไม่สามารถมองเห็นได้ถนัด จนสุดท้ายแพทย์สนามต้องสั่งยุติการชกเนื่องจากอาจเป็นอันตรายหากยังฝืนชกต่อไป

ทำให้ เอร์รอล สเปนซ์ จูเนียร์ เป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอ ไปได้ในยกที่ 10 พร้อมเพิ่มสถิติชนะรวด 28 ไฟต์ (ชนะน็อก 22 ครั้ง) รวบแชมป์โลก 3 เส้น (WBC, IBF และ WBA) มาครองได้สำเร็จ โดยเป้าหมายต่อไปอยากเจอกับ เทอเรนซ์ ครอว์ฟอร์ด แชมป์องค์กรมวยโลก (WBO)

“มักซาโย่” กำปั้นฟิลิปปินส์ ชนะคะแนน “รัสเซลล์” คว้าแชมป์โลก WBC

การแข่งขันชกมวยโลก SHOWTIME คู่เอกของรายการ แกรี่ รัสเซลล์ จูเนียร์ นักชกสหรัฐฯ เจ้าของแชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นเฟเธอร์เวต พบกับ มาร์ก มักซาโย่ ผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ ที่เบอร์โกต้า โฮเทล คาสิโน, แอตแลนต้า, ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา

เปิดฉากช่วงยกต้นๆ มาร์ก มักซาโย่ ผู้ท้าชิงไม่มีกลัวเดินลุยออกหมัดหนักๆ เล่นงาน แถมมีหมัดอัปเปอร์คัตขวาตัวลำตัวเป็นระยะ ขณะที่ แกรี่ รัสเซลล์ ยังวนอยู่วงนอกเน้นออกหมัดแย็บซ้ายนำ และดักปล่อยขวาเล่นงานใบหน้าได้จะแจ้ง

เข้าสู่ยกสี่ กำปั้นปินส์ มาได้โอกาสปล่อยหมัดโดนในช่วงต้นยกทำเอา แชมป์โลก เซไปติดเชือกจากนั้นระดมหมัดใส่ไม่ยั้ง แต่ก็ปิดบัญชีไม่ลงเนื่องจาก แกรี่ รัสเซลล์ ฉากหนีออกมาผ่อนระยะแล้วดักปล่อยหมัดสวนเหมือนเดิม

เกมยังสนุกช่วงยก 7-8 กำปั้นทั้งคู่ต่างเปิดเกมแลกกันในสไตล์ถนัด มาร์ก มักซาโย่ อาศัยเดินลุยออกหมัดชุดเล่นงานแบบต่อเนื่อง ขณะที่ กำปั้นเจ้าถิ่น อาศัยดึงจังหวะแล้วหาช่องปล่อยหมัดสวนตอบโต้เข้าหน้าได้หลายครั้งเหมือนกัน

รูปเกมการชกยืดเยื้อจนมาถึงยกสุดท้าย มาร์ก มักซาโย่ เดินลุยเหมือนเดิมไล่ออกหมัดโจมตีใส่ทั้งซ้ายและขวา ขณะที่ แกรี่ รัสเซลล์ ก็มั่นใจในตัวเองว่าคะแนนนำ ไม่เน้นปะทะอาศัยดึงจังหวะฉากแล้วออกหมัดตอบโต้

ครบ 12 ยก กรรมการรวมคะแนนก่อนชูมือให้ มาร์ก มักซาโย่ นักชาวชาวฟิลิปปินส์ เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้แบบเสียงข้างมาก 114-114, 115-113 และ 115-113 กลายเป็นแชมป์โลก รุ่นเฟเธอร์เวต ของ สภามวยโลก (WBC) คนใหม่ทันที ทำให้ แกรี่ รัสเซลล์ จูเนียร์ เสียแชมป์หลังจากป้องกันมาได้นานเกือบ 7 ปี

สำหรับ มาร์ก มักซาโย่ กำปั้นวัย 26 ปี เริ่มต้นชกมวยตั้งแต่อายุเพียงแค่ 8 ขวบ โดยลงแข่งขันในมวยสมัครเล่นกว่า 200 ครั้ง คว้าแชมป์ 4 สมัย ของสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งฟิลิปปินส์ (ABAP) และคว้าตำแหน่งนักมวยยอดเยี่ยม 2 สมัย

เบนเข็มสู่มวยอาชีพเมื่อปี 2013 ซึ่งไฟต์ที่น่าจะเป็นที่จดจำของแฟนกำปั้นชาวไทยก็คือการชนะคะแนน ผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ เมื่อปี 2019 ก่อนซ็นสัญญาภายใต้ MP Promotions (สังกัดของ แมนนี่ ปาเกียว) เมื่อต้นปี 2020 ซึ่งถึงปัจจุบันเจ้าตัวมีสถิติชนะรวด 24 ไฟต์ (ชนะน็อก 16 ครั้ง) และยังไม่เคยปราชัยให้กับคู่ชกรายไหนบนเส้นทางการชกอาชีพ

“เจเน็ต ท็อดด์” คว้ารางวัลนักกีฬาหญิงยอดเยี่ยม จากศึก วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ปี 64

“เจเน็ต ทอดด์” หลังจากคว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งรุ่นอะตอมเวตหญิงในปี 2563 ก็หันกลับมาเอาดีด้านมวยไทยในปีนี้

โดยโชว์ฟอร์มเยี่ยมคว้าชัยชนะมาถึงสองไฟต์รวด ทำให้เธอสั่งสมสถิติชนะต่อเนื่องถึง 6 ไฟต์ และได้ “รางวัลนักชกหญิง วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ประจำปี 2564” ไปครองในที่สุด

ปัจจบัน เจเน็ต รั้งอันดับ 1 ของแรงกิงมวยไทย รุ่นอะตอมเวต และกำลังเดินหน้าล่าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย มาประดับเอวเป็นเส้นที่สอง โดย เจเน็ต เริ่มต้นปี 2564 แบบท็อปฟอร์มในการเอาชนะผู้เข้าชิงอันดับ 4

และอดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต “อัลมา ยูนิคู” ในศึก ONE: FISTS OF FURY III เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา

“แก่นนคร” เผชิญหน้า “อิโนอุเอะ” ลั่นพร้อมจะหอบเข็มขัดกลับบ้าน

ศึกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวต 2 สถาบัน (WBA ซูเปอร์ และ IBF) ระหว่าง “มอนสเตอร์” นาโอยะ อิโนอุเอะ เจ้าของแชมป์โลก พบกับ อรัญ ดีแป้น นักชกชาวไทย หรือชื่อในวงการมวย แก่นนคร จีพีพี เรือใบไข่มุก ที่สังเวียน เรียวโกคุ โคคุกิคัน, กรุงโตเกียว ในวันที่ 14 ธันวาคม 2564

โดยล่าสุดนักมวยทั้งคู่ได้มาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกในงานแถลงข่าวการชั่งน้ำหนักก่อนวันชก ที่โรงแรมเชอราตัน เมืองโยโกฮาม่า ผลปรากฎว่านักชกทั้งคู่ชั่งทีเดียวผ่าน อิโนอุเอะ ชั่งก่อนได้ที่น้ำหนัก 118 ปอนด์ ขณะที่ กำปั้นชาวไทยวัย 30 ปี ชั่งผ่านที่ 117.5 ปปอนด์ ผ่านพิกัด 118 ปอนด์ทั้งคู่

ซึ่งหลังผ่านการชั่งน้ำหนักเสร็จนักชกทั้งคู่ได้ยืนเผชิญหน้ากันเพื่อให้นักข่าวถ่ายภาพประมาณ 15 วินาที ก่อนที่จะจับมือกันเพื่อเป็นการแสดงมิตรภาพ จากนั้นก็แยกย้ายเพื่อกลับไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการชกในวันพรุ่งนี้

ทางด้าน แก่นนคร กล่าวผ่านสื่อว่า เตรียมฟิตซ้อมมานานกว่า 2 เดือน พร้อมกันนั้นยังได้ศึกษาเทป และสไตล์ของคู่ชกมาอย่างละเอียด ยอมรับว่าเขาเป็นนักชกที่อันตรายมาก แต่ตน และเทรนเนอร์พร้อมทีมงานหาทางแก้ทางเอาไว้แล้ว เชื่อมั่นจะคว้าเข็มขัดแชมป์โลกกลับเมืองไทยได้แน่

ขณะที่ นาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์โลก เปิดใจถึงไฟต์นี้ว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาชกในบ้านเกิดอีกครั้งในรอบกว่าสองปี ซึ่งได้มีการเตรียมพร้อมฝึกซ้อมมานานกว่า 3 เดือน ทำให้มีความมั่นใจเต็มที่ว่าจะเดินหน้าคว้าชัยชนะในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน

สำหรับเกมการชกของ นาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวต 2 สถาบัน (WBA และ IBF) กับ แก่นนคร จีพีพี เรือใบไข่มุก จะมีขึ้นที่สังเวียน เรียวโกคุ โคคุกิคัน, กรุงโตเกียว ในวันที่ 14 ธันวาคม 2564 แต่น่าเสียดายที่จะไม่มีการถ่ายทอดสดกลับมายังประเทศไทย อย่างไรก็ตามทีมข่าวกีฬาของเราจะรายงานผลให้ได้ทราบกันอย่างแน่นอน

“ไมค์ ไทสัน” ฟิตซ้อมอย่างหนัก หลังถูก “โลแกน พอล” ท้าให้คืนสังเวียน

การต่อสู้ของ “มฤตยูดำ” ไมค์ ไทสัน อดีตกำปั้นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน กับ โลแกน พอล ยูทูบเบอร์จอมเกรียน กำลังได้รับการจับตามอง แม้จะยังไม่มีการประกาศกำหนดไฟต์การชกอย่างเป็นทางการ

แต่ล่าสุด อดีตราชากำปั้นโลกรุ่นยักษ์ ตัดสินใจกลับเข้าโรงยิมอีกครั้ง แถมมีการฝึกที่หนักหน่วงเสียด้วย งานนี้เห็นแล้วทำให้นึกถึงลีลาสมัยหนุ่มๆ ของเจ้าตัวที่จะทำการโยกตัวระดมหมัดหนักๆ เข้าใส่คู่ชกบนสังเวียน

แม้จนถึงตอนนี้ อดีตกำปั้นวัย 55 ปี จะไม่ได้ออกมายืนยันว่าสนรับคำท้าของ ยูทูบเบอร์จอมแสบวัย 26 ปี หรือไม่ แต่จากการที่เจ้าตัวออกมาลงนวมซ้อมมวยอีกครั้ง บอกได้เลยว่างานนี้มีแฟนๆ หลายรายอยากให้เจ้าตัวตอบรับคำท้า

นั่นก็เพราะอยากเห็น โลแกน พอล และ เจค พอล สองพี่น้องจอมเกรียนที่ชอบออกมาท้าทายบรรดานักสู้อาชีพขึ้นสังเวียนลงไปนอนกองกับพื้น หลังจากที่ผ่านมาป่วนวงการด้วยการออกมาท้าชกกับนักสู้หลายรายทั้งในวงการมวยอาชีพ และวงการมวย MMA

โดยไฟต์ก่อนหน้านี้ โลแกน พอล สามารถยืนครบ 8 ยก ในการชกกับ “เดอะมันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อดีตกำปั้นไร้พ่ายชาวสหรัฐฯ ที่สังเวียน ฮาร์ดร็อค อารีน่า, ไมอามี่ เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนๆ หลังเกมการชกจืดชืด

สำหรับ  “มฤตยูดำ” ไมค์ ไทสัน อดีตกำปั้นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน (WBA, WBC และ IBF) มีสถิติการชก 58 ไฟต์ เป็นการชนะ 50 ครั้ง ชนะน็อก 44 ครั้ง แพ้ 6 และไม่มีการตัดสิน 2 ครั้ง ก่อนตัดสินใจอำลาสังเวียนเมื่อปี 2005 อย่างไรก็ตามเจ้าตัวหวนคืนสังเวียนพบกับ รอย โจนส์ จูเนียร์ อดีตโคตรมวยแชมป์โลก 4 รุ่น ในการชกพิเศษ 4 ยก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน

เผยค่าเหนื่อยของ “ดาวเหนือ” กำปั้นไทย ในไฟต์ชิงแชมป์โลกที่ผ่านมา

Boxing-298

ควันหลงหลังความพ่ายแพ้ของ ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก กำปั้นชาวไทยที่เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ จอช เทย์เลอร์ นักชกชาวสกอตแลนด์ พลาดโอกาสคว้าแชมป์โลก รุ่นไลท์-เวลเตอร์เวท 2 สถาบัน (WBA และ IBF)

พ่วงด้วยเข็มขัด เดอะ ริงก์ (The Ring) เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา

โดยรูปเกมการชกก็อย่างที่ทราบกันดีว่า นักชกไทยวัย 24 ปี เสียสถิติแพ้เป็นครั้งแรกในชีวิต หลังโดนหมัดซ้ายตัดลำตัวหล่นลงไปกองให้กรรมการนับถึง 10 ในเวลาเพียงแค่ 2 นาที 41 วินาที ของยกแรกเท่านั้น พลาดโอกาสคว้าแชมป์โลกอย่างน่าเสียดาย

อย่างไรก็ตามเราลองไปดูเรื่องราวนอกสังเวียนเกี่ยวกับค่าตัวการชกในไฟต์นี้กันหน่อย โดย sportekz เว็บไซต์กีฬาต่างชาติ ได้เปิดเผยตัวเลขค่าเหนื่อยของนักชกในไฟต์นี้ออกมาให้แฟนๆ ได้ทราบกัน

ซึ่งตัวของ จอช เทย์เลอร์ แชมป์โลกวัย 29 ปี รับไป 1.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 61 ล้านบาท) ขณะที่ ดาวเหนือ เรือใบไข่มุก หรือชื่อจริง อภินันท์ คงสง ผู้ท้าชิงชาวไทย รับไป 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 20 ล้านบาท) ถือว่าเป็นรายได้ที่มากที่สุดในการชกอาชีพของทั้งคู่

นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งค่าถ่ายทอดสดจาก ESPN+ (ในสหรัฐฯ) และ BT Sports (ในสหราชอาณาจักร) อีกต่างหาก โดยฝั่งแชมป์โลกจะได้ 65% ส่วน กำปั้นชาวไทยจะได้อีก 35%

ซึ่งหากนำไปเทียบกับ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกชาวไทย ที่เคยได้รับไฟต์ล่าสุดในการเจอกับ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า ถือว่าเยอะกว่าเพราะในครั้งนั้น “เจ้าแหลม” ได้ค่าตัวอยู่ที่ 500,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 15.9 ล้านบาท)

1% สุดท้าย คือที่ว่างสำหรับ ‘มวยสากล’เลเวล1..

Boxing-43

ถ้าทุกท่านกำลังอยู่ในฐานะผู้ปกครองของเด็กผู้ชายอายุ 7 ขวบคนหนึ่ง คุณอยากให้เค้าเล่นกีฬาประเภทใดครับ?

ประมาณ 70% อยากให้ลูกเป็นนักฟุตบอล

อีก 29% อยากให้ลูกเล่นกีฬาประเภทอื่นๆ เช่น วอลเลย์บอล ว่ายน้ำ บาสเกตบอลและกีฬาประเภทอื่นๆ

ส่วน 1% สุดท้าย คือที่ว่างสำหรับ ‘มวยสากล’

Boxing-44

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลข้างต้น เป็นเพียงการสนทนากับเพื่อนร่วมออฟฟิศของผู้เขียน ซึ่งคู่สนทนาส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มชนชั้นกลาง มิได้ครอบคลุมกลุ่มคนทุกชนชั้นในสังคม จึงไม่ใช่ผลงานการเขียนที่ถูกต้องสมบูรณ์แต่อย่างใด

แต่ด้วยค่านิยมในปัจจุบัน คงไม่มีใครเต็มใจให้บุตรหลานไปเล่นกีฬาที่ต้องเจ็บตัวอย่างนั้นเท่าไหร่ อีกทั้งเรื่องของรายได้และความเป็นที่นิยมของมวย ก็มิได้ดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ให้ยอมพลีกายให้แต่อย่างใด

ที่สุดแล้ว ในวันที่ถนนโล่งเมื่อเขาทรายขึ้นชกมวยเมื่อวันวาน ก็ถูกกาลเวลาผันเปลี่ยนเป็น แชมป์โลก 2 คนที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าใดในปัจจุบัน

ตามที่สังเกตุในปัจจุบัน นักกีฬามวยสากลอาชีพบ้านเรามีจำนวนลดลงมากพอสมควร อีกทั้งนักมวยความหวังระดับแชมป์โลกก็ยังแทบจะไม่มีให้เห็นเท่าไรนัก นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเสื่อมความนิยมของมวยสากล ซึ่งเหตุผลเกิดจากปัจจัยใดบ้าง ผมว่าทุกท่านคงจะมีคำตอบในใจและผ่านการเสวนาในประเด็นดังกล่าวกันอย่างถึงพริกถึงขิงแล้วในหลายๆครั้ง ซึ่งเราคงจะไม่พูดถึงประเด็นดังกล่าวในบทความนี้

Boxing-45

ดังนั้น บทความนี้ขอเสนอนักมวยสากลอาชีพชาวไทยที่ยังชกอยู่ในปัจจุบันในแต่ละรุ่น ใครเป็นใครและมีเป้าหมายอันใดกันบ้าง เชิญติดตามได้ด้านล่างครับ

รุ่น มินิมั่มเวต 105 ปอนด์

ด้วยสรีระที่ค่อนข้างเล็กกว่าประชากรของทวีปอื่น นี่จึงเป็นพิกัดน้ำหนักที่เป็นที่นิยมของนักมวยชาวไทยและมีนักมวยระดับแชมป์โลกมากมายในพิกัดน้ำหนักนี้ ตามข้อมูลและสถิติที่มีบันทึกไว้ มีนักมวยชาวไทยไม่น้อยกว่า 214 คนที่เคยชกในรุ่นนี้ แต่ปัจจุบันคงเหลือนักมวยไม่ถึง 10 คนในพิกัด แต่อย่างไรก็ตาม แชมป์โลก 2 คนที่สยามประเทศมีในปัจจุบัน คือนักมวยในพิกัดนี้ นั่นก็ได้แก่ วันเฮง มีนะโยธิน และ น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท ซึ่งถือว่าเป็น 2 นักชกที่ดีที่สุดในโลกของรุ่นนี้ด้วย

Boxing-46

ทางด้านนักมวยรายอื่นๆ เราแทบไม่เห็นดาวรุ่งที่พอจะฝากความหวังได้ในอนาคตเลย นักมวยที่พอจะมีชื่อเสียงอีกคนก็คือ ไก่ชน ส.วรพิน ที่กลายสภาพเป็นมวยเดินสายและมีสถิติการชกแพ้น็อคมา 10 ไฟต์รวดในช่วงหลัง

รุ่น ไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์

สมาน ส.จาตุรงค์ คือนักมวยที่โด่งดังและสร้างแรงบันดาลใจมากมายให้กับบุคคลทุกวงการนับตั้งแต่การพลิกนรกชนะน็อคฮุมเบอร์โต กอนซาเลซ ซึ่งในปัจจุบัน ถึงแม้เราจะไม่มีแชมป์โลกในพิกัดรุ่นนี้ หากแต่ดาวรุ่งที่กลายเป็นมวยสร้างของญี่ปุ่นอย่าง เพชรโกศล กรีนซือดะ เจ้าของฉายา ศรีสะเกษ 2 ก็ยังเป็นความหวังแชมป์โลก ที่แฟนมวยชาวไทยกำลังจับตามองและตามลุ้นอยู่เช่นกัน